Thursday, 25 April 2024
NEWSFEED

ปตท. คว้า 3 รางวัลระดับอาเซียน ASEAN CG Scorecard ประจำปี 2564 สะท้อนถึงการกำกับดูแลกิจการที่ดีในอาเซียน

ปตท. คว้า 3 รางวัล การกำกับดูแลกิจการที่ดีในอาเซียน ASEAN CG Scorecard ประจำปี 2564

.

บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้รับผลการประเมินการกำกับดูแลกิจการที่ดีของบริษัทจดทะเบียนในอาเซียน (ASEAN CG Scorecard) ประจำปี 2564 โดยมีนายชฎิล ชวนะลิขิกร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหารศักยภาพองค์กรและธรรมาภิบาล บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เข้ารับรางวัลจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) เพื่อยกย่องและประกาศเกียรติคุณให้แก่บริษัทจดทะเบียนในอาเซียน ที่ดำเนินธุรกิจตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี ซึ่ง ปตท. ได้รับจำนวน 3 รางวัล ประกอบด้วย รางวัล ASEAN Asset Class PLCs สำหรับบริษัทจดทะเบียนที่ได้คะแนนการประเมินตั้งแต่ร้อยละ 75 หรือคิดเป็น 97.50 คะแนนขึ้นไป รางวัล ASEAN Top 20 PLCs สำหรับบริษัทจดทะเบียนที่มีคะแนนสูงสุด 20 อันดับแรกในระดับภูมิภาคอาเซียน และรางวัล Country Top 3 PLCs สำหรับบริษัทจดทะเบียนที่มีคะแนนสูงสุด 3 อันดับแรกของประเทศไทย

.

ทั้งนี้ รางวัลดังกล่าวสะท้อนการเป็นองค์กรที่ตระหนักถึงการกำกับดูแลกิจการที่ดีและมีธรรมาภิบาลสอดคล้องมาตรฐานสากล พร้อมได้รับการยอมรับจากนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศมาอย่างต่อเนื่อง โดยการประเมิน ASEAN CG Scorecard เป็นการสำรวจการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนในระดับอาเซียน 6 ประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย สิงคโปร์ และเวียดนาม จากข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะ เพื่อยกระดับคุณภาพการกำกับดูแลการดำเนินธุรกิจของบริษัทจดทะเบียนในอาเซียนให้ทัดเทียมมาตรฐานสากล

 

หล่าเชฟอวดฝีมือ แคนาดาจัดประกวด “บ้านขนมปังขิง” ภายใต้งาน จิงเจอร์เบรด เลน ครั้งที่ 30

แวนคูเวอร์, 8 ธ.ค. (ซินหัว) — ผู้คนหลากหลายวัยแวะเวียนชม “บ้านขนมปังขิง” สุดน่ารักที่รังสรรค์ขึ้นอย่างประณีต ภายในงานจิงเจอร์เบรด เลน (Gingerbread Lane) ครั้งที่ 30 ซึ่งจัดขึ้นในเมืองแวนคูเวอร์ รัฐบริติชโคลัมเบียของแคนาดา
.
งานดังกล่าวอวดโฉมบ้านขนมปังขิงราว 30 ชิ้น และเปิดโอกาสให้สาธารณชนร่วมโหวตผลงานที่ชื่นชอบ ซึ่งออกแบบโดยทีมผู้แข่งขันมือสมัครเล่น เหล่าพ่อครัวแม่ครัว และนักอบขนมปังมืออาชีพ

จัดงานแสดงไฟประดับเป็นปีที่ 5 ชวนนักท่องเที่ยวร่วมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ด้วยความเบิกบาน

ณ สัทธา อุทยานไทย จ.ราชบุรี จัดงานแสดงไฟประดับเป็นปีที่ 5 ชวนนักท่องเที่ยวร่วมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ด้วยความเบิกบาน ความงดงามของแสงไฟประดับกว่าล้านล้านดวง โดย ณ สัทธา อุทยานไทย ได้ร่วมจัดกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, บริษัท ซิกนิฟาย คอมเมอร์เชียล (ประเทศไทย) จำกัด ,SIRILERT GROUP บริษัท SPARKLING LIGHT, บริษัท DIGITAL PINIC และ บริษัท WISDOM

.

ด้วยแนวคิด ความสุข สนุกเพลิน เบิกบาน ที่มีสีสันจากไฟประดับล้านดวง ผ่านเทคโนโลยีต่างๆ Interactive Light Art Projector Mapping และ Interactive Display และ ครั้งแรก กับ Kinetic Lighting Art กลางแจ้ง เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับประสบการณ์ ILLUMINATION ART กับงานประติมกรรมในธรรมชาติอันร่มรื่น

.

โดยนำเสนอเรื่องราวผ่านเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้และตระหนักถึงคุณค่าของวัฒนธรรมไทยอันงดงามเมื่อครั้งก่อนเก่า เพื่อที่จะได้บอกเล่าเรื่องราวอันมีคุณค่าให้กับคนรุ่นหลัง ได้เกิดความภาคภูมิใจในวัฒนธรรมอันจะนำไปสู่การบอกเล่าเรื่องราวอันทรงคุณค่าที่มีมาช้านานให้คงอยู่สืบไป

.

กิจกรรมจัดขึ้นช่วงค่ำ เพื่อชมความงดงามของการจัดแสดงไฟประดับกว่าล้านดวงที่จะทำให้ ณ สัทธา สว่างไสว สวยงามในยามค่ำคืน แบ่งเป็นจุดชม 13 จุด ได้แก่ จุดชมที่ 1 ยุคทอง, จุดชมที่ 2 เส้นทางปลุกพลังชีวิตเริ่มต้นสิ่งใหม่, จุดชมที่ 3 สีสันดอกไม้, จุดชมที่ 4 จิตวิญญาณแห่งสยาม, จุดชมที่ 5 คลื่นศักดิ์สิทธิ์, จุดชมที่ 6 แสงเกสร, จุดชมที่ 7 ถ้ำเวทมนต์และต้นไม้เรืองแสง, จุดชมที่ 8 อุโมงค์ลมหายใจแห่งแสง, จุดที่ 9 ลานแสงแห่งความสุข, จุดที่ 10 ระบำแสงไฟ, จุดที่ 11 จุดเริ่มต้นเทศกาลไฟ, จุดที่ 12 Glittering Song และจุดที่ 13 ภูติแห่งป่า

.

ซึ่งทั้งหมดได้จัดขึ้นอย่างตระการตา หลากหลายรูปแบบ อาทิ ทุ่งไฟ ผีเสื้อไฟ ดอกไม้ไฟ อุโมงค์, ลั่นกระดิ่งรับพรปีใหม่, ชมไฟบันทึกภาพบนเรือ, สนุกกับการบันทึกภาพเคลื่อนไหว Kinetic Lighting Art, จัดดอกไม้ไหว้พระขอพรปีใหม่ ที่โซน ณ สัทธาปฏิมา 3 สมัย พร้อมเลือกซื้อสินค้าและทานอาหาร ของดี ราชบุรี และกิจกรรมมหาสนุก รับของรางวัลที่ระลึกมากมาย

.

ธรรมวิทย์ ศิริพรเลิศ ผู้บริหาร บอกเล่าว่า สำหรับคนที่ยังไม่เคยมา​ทุกจุดสามารถเป็นไฮไลท์ได้หมดขึ้นอยู่กับว่าต้องอารมณ์กับนักท่องเที่ยว​ ณ​ จุดใด​ การจัดแสดงไฟปีนี้จะเพิ่มการจัดแสงแม้ว่าจะเป็นจุดเดิม​แต่จุดเดิมนี้จะมีการเพิ่มเติมและดีไซน์รูปแบบใหม่​ จะเห็นความอลังการของแสงสีมากขึ้น​ เรียกว่าไม่ซ้ำกับปีก่อนๆ​

.

จุดที่​ 9​ ลานทุ่งคริสต์มาส​ จัดทำขึ้นมาใหม่​โดยใช้สื่อผสมผสานแบบแมพปิ้ง​ รวมถึงลานดอกไม้และลานบอนไซที่ใช้แมพปิ้ง การชมจากภาพและการมาเห็นด้วยตาตัวเอง ต้องบอกว่าคนละอารมณ์กัน คนไม่เคยมารู้สึกประทับใจทุกคน กับฝีมือการจัดทำโดยฝีมือคนไทย

.

ราชบุรีเป็นเมืองที่มีการท่องเที่ยวหลากหลาย ทั้งทางศิลปวัฒนธรรม การท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ณ สัทธา เป็นอีกหนึ่งแห่งที่จะให้นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้และตระหนักถึงคุณค่าของวัฒนธรรมไทยอันงดงาม สำหรับงานไฟตอบโจทย์คนทุกเจเนอเรชั่น ผู้สูงวัยก็ชอบ ปัจจุบันคนชอบถ่ายภาพ บอกเล่าเรื่องราวความประทับผ่านโซเชียล พอเป็นแบบนี้ทุกคนอยากมีภาพความทรงจำที่สวยงามเก็บไว้

.

ซึ่งอุปกรณ์มือถือสามารถเก็บไว้ได้หมดนอกจากนี้การจัดเซทไฟลงตัวระหว่างธรรมชาติกับเทคโนโลยีมาผสานกัน รวมทั้งมิติการบอกเล่าเรื่องราว ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ หลอมรวมไว้แทบทุกจุดเป็น “ซอฟท์ เพาเวอร์” อย่างหนึ่ง ทุกคนสามารถซึบซับและเสพบรรยากาศ ธรรมชาติ และเรื่องราวความเป็นไทย” ผู้บริหาร ณ สัทธา กล่าว

.

อยากให้มองว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ทุกคนมาหาความบันเทิงในอีกรูปแบบหนึ่งได้ มาพักผ่อนหย่อนใจได้ ผมเชื่อว่าในการหาความรู้ก็สามารถหาความบันเทิงได้เช่นกัน เรียนรู้ด้วยความบันเทิง กระแสเช่าชุดไทยก็ไม่แผ่ว เราเลือกเกรดผ้าคุณภาพดีใส่แล้วไม่คัน ระคายเคืองผิว จึงให้ความสำคัญอีกส่วนหนึ่ง” ธรรมวิทย์กล่าว

.

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/lifestyle/travel/news_7380950

.

Swap & Go จับมือ Stallions Group ลุยรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าในไทย พร้อมขยาย Battery Swapping

Swap & Go จับมือ Stallions Group เดินหน้าส่งเสริมการใช้งานรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า พร้อมขยายเครือข่าย Battery Swapping ทางเลือกใหม่เพื่อสังคมไร้มลพิษ

.

นางสาวอาวีมาศ สิริแสงทักษิณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สวอพ แอนด์ โก จำกัด (Swap & Go) (ซ้าย) และนายธีรเจต ลาภจตุรพิธ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สตาเลียน มอเตอร์ไซค์เคิล จำกัด (Stallions) (ขวา) เปิดตัวโครงการความร่วมมือส่งเสริมการใช้งานรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า พร้อมขยายเครือข่าย Battery Swapping หรือสลับเปลี่ยนแบตเตอรี่ สร้างทางเลือกในการใช้พลังงานสะอาด เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของคนไทย ถือเป็นกลไกสำคัญที่สอดรับกับแผนพัฒนาประเทศ และเป็นการขยายผลจากต้นแบบการดำเนินธุรกิจในลักษณะแพลตฟอร์มและโครงสร้างพื้นฐานการสลับเปลี่ยนแบตเตอรี่ให้กับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าโดยไม่ต้องรอชาร์จของ Swap & Go ที่ได้พัฒนาแบตเตอรี่รุ่นใหม่ที่มีพลังงานสูงขึ้น รองรับการขยายตัวของผู้ใช้งานรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นในอนาคต

.

ทั้งนี้ กลุ่มบริษัท Stallions ผู้ผลิตและจำหน่ายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าชั้นนำ ได้จับมือร่วมกับแบรนด์ TAILG ซึ่งเป็นแบรนด์จักรยานยนต์ไฟฟ้าอันดับ 3 ของจีน ที่มียอดการผลิตปีละ 12 ล้านคัน เพื่อมุ่งสร้างฐานการผลิตบนมาตรฐาน TAILG Technology เพื่อส่งออกตลาดทั้งอเมริกายุโรปและอาเซียนรวมถึงประเทศไทย รวมทั้งได้พัฒนารถจักรยานยนต์ไฟฟ้าให้สามารถใช้งานสลับแบตเตอรี่ในระบบของ Swap & Go โดยความร่วมมือนี้ เป็นการเตรียมความพร้อมในการเพิ่มจำนวนการใช้งานรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยผ่านการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจ ร่วมขับเคลื่อนและเพิ่มศักยภาพการใช้พลังงานสะอาดของประเทศ สอดรับกับวิสัยทัศน์ของกลุ่ม ปตท. ในการสร้างสรรค์นวัตกรรมพลังงานอนาคตที่ยั่งยืนร่วมกัน

ไม่มี ไม่ได้แล้ว !! รวมกระเป่าสตางค์ผู้ชายยอดฮิต ใช้แล้วดูดี มีสไตล์ แถมทนทานต่อการใช้งาน

วันนี้ Cloud47 พาไปดูกระเป๋าสตางค์ยอดฮิต ที่ใช้แล้วดูดี มีสไตล์ และยังทนอีกต่างหาก เรียกได้ว่าครบเครื่องสำหรับคุณผู้ชายสุดๆ

.

หรือคุณผู้หญิงคนไหนสนใจอยากซื้อให้หวานใจก็ถือว่ามาดูเป็นไอเดียกันได้เลย พร้อมแล้วเริ่มกันเลยกับใบแรก

.

Coach 3-in-1 Wallet in Signature Canvas

กระเป๋าแบรนด์เนมที่ราคาเอื้อมถึงได้อย่าง Coach ก็มีกระเป๋าสตางค์ผู้ชายเหมือนกัน โดยรุ่นนี้เป็นการผสมผสานหนังแท้เข้ากับผ้าใบลายลิขสิทธิ์เอกลักษณ์ของแบรนด์ หรูหรา แต่ไม่มากจนเกินไป ด้านในมีช่องใส่บัตรถึง 10 ช่อง และสามารถถอดได้อีก 2 ช่อง เผื่อวันที่ไม่ต้องการพกบัตรเยอะ ๆ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์จริง ๆ

.

Gucci Ophidia wallet

สำหรับหนุ่ม ๆ ที่หลงใหลแถบสีน้ำเงินแดงของแบรนด์กุชชี่ต้องชอบกระเป๋าสตางค์ใบนี้แน่นอน เป็นกระเป๋าสตางค์ใบสั้นที่ทำมาจากผ้าใบเนื้อหนาพิมพ์ลายสัญลักษณ์ของกุชชี่ ตัดแต่งด้วยหนังสีขาว คาดด้วยแถบผ้าสีน้ำเงินแดงสุดคลาสสิกและทันสมัยพร้อมโลโก้ GG ด้านในเป็นหนังสีขาวสวยงาม มีช่องใส่ธนบัตรและช่องใส่เหรียญถึง 10 ช่อง ถูกใจคนชอบพกบัตรมาก ๆ

.

Bottega Veneta Bifold Wallet with Coin Purse

สาวกแบรนด์เนมรุ่นใหม่ถูกใจสิ่งนี้ เพราะกระเป๋าหนังสานของ Bottega Veneta เป็นเอกลักษณ์สุดเก๋ที่ใครหยิบมาใช้ก็รู้เลยว่าแบรนด์อะไร ใบนี้ความพิเศษคือ นอกจากจะเป็นหนังแท้ที่ตัดเย็บอย่างประณีตแล้ว ยังมีช่องใส่ธนบัตร ช่องใส่บัตรถึง 6 ช่อง และช่องใส่เหรียญอีกด้วย ใบเดียวจบจริง ๆ และมีให้เลือกถึง 7 สี คือ ดำ ครีม น้ำตาลเข้ม น้ำตาลกากี น้ำเงินสด เทา และเขียวขี้ม้า

.

Louis Vuitton รุ่น Multiple

ชอบความลักชัวรี่ต้องใบนี้ กระเป๋าสตางค์หนังลูกวัวผิวสัมผัสนุ่ม สีดำ พิมพ์ลาย Monogram ที่เป็นสัญลักษณ์แบรนด์ออกมาได้เรียบหรู รูปทรงกะทัดรัด มีฟังก์ชันหลากหลาย มีช่องใส่ธนบัตรถึง 2 ช่อง และช่องใส่บัตรอีก 7 ช่อง

.

ครบแล้วกับกระเป๋าสตางค์สำหรับคุณผู้ชาย ถือว่าเป็นไอเดียสำหรับใครที่อยากจะเปลี่ยนกระเป๋าสตางค์ หรือคนที่จะซื้อเพื่อเป็นของขวัญก็ได้หมด

.

ที่มา : kapook

‘เอสโตเนีย’ พร้อมเปิดประตูต้อนรับ สถานที่เที่ยวแห่งและความทรงจำทางประวัติศาสตร์ ไม่ว่าใครที่ได้มาเยือนก็ต้องตกหลุมรักในประเทศนี้

เอสโตเนีย หนึ่งในประเทศยุโรปตะวันออกที่มีเสน่ห์ชวนให้ผู้มาเยือนหลงรัก จากดินแดนภายใต้การปกครองระบอบคอมมิวนิสต์ในหลายทศวรรษก่อน สามารถก้าวข้ามมาสู่การเป็นประเทศพัฒนาได้อย่างรวดเร็วภายในระยะเวลา 20 ปี แถมยังเป็นประเทศที่มีระบบดิจิทัลสุดทันสมัย

.

อย่างไรก็ตาม ความทันสมัยล้ำยุค หรือการพัฒนาของประเทศ ก็ไม่ได้ละทิ้งความงามเก่าแก่ของอดีต โดยเฉพาะย่านเมืองเก่าของ “ทาลลินน์” (Tallinn) เมืองหลวงของประเทศเอสโตเนีย ที่ได้รับการยกให้เป็นมรดกโลกจากยูเนสโก และยังคงความเข้มขลังในวันวานได้อย่างน่าทึ่ง เหมาะแก่การเป็นจุดเริ่มต้นในการท่องเที่ยวทำความรู้จัก “เอสโตเนีย”

.

ต้นกำเนิดของ “ทาลลินน์” ต้องย้อนกลับไปในศตวรรษที่ 13 ปราสาทโบราณถูกสร้างขึ้นที่นั่นโดยอัศวินทิวทัน ที่ซื้ออาณาจักรจากกษัตริย์เดนมาร์ก ก่อนพัฒนาเป็นศูนย์กลางที่สำคัญของสันนิบาตฮันเซอ ฉายภาพแห่งความมั่งคั่งของอาคารสาธารณะ โบสถ์ และสถาปัตยกรรมอันวิจิตร ซึ่งยังคงหลงเหลืออยู่จนถึงในปัจจุบัน แม้จะผ่านไฟสงครามในช่วงหลายศตวรรษที่ผ่านมาก็ตาม

.

เสน่ห์อันลึกลับของทาลลินน์ ส่วนหนึ่งยังมาจากในยุคสงครามเย็น เมืองนี้ถือเป็นยุทธศาสตร์สำคัญที่สหภาพโซเวียตกับประเทศประชาธิปไตยฝั่งตะวันตกใช้เป็นจุดเชื่อมต่อ หรือเผชิญหน้ากัน ว่ากันว่าถนนที่รายล้อมไปด้วยอาคารเก่า และโบสถ์สไตล์กอทิกในยุคกลางของศตวรรษที่ 13 นั้น ขวักไขว่ไปด้วยสายลับจากทุกฝ่าย ที่รอคำสั่งเพื่อปฏิบัติการ และกล้อง Minox ขนาดจิ๋วเท่ากล่องไม้ขีดไฟ ที่เราอาจเห็นในภาพยนตร์สายลับ ก็ถูกประดิษฐ์ขึ้นจากเมืองนี้อีกด้วย

.

ผู้มาเยือนจากทั่วโลก มาเยือนเมืองหลวงแห่งนี้ จะได้เจอศูนย์กลางธุรกิจที่มีอาคารโมเดิร์น โรงแรมหรู ย่านทันสมัย และศูนย์การค้าขนาดใหญ่ แต่เมื่อเดินทางไปสู่เขตเมืองเก่าทาลลินน์ จะกลายเป็นความรู้สึกอีกแบบ เพราะเป็นเมืองยุคกลางที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ดีที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรปเหนือ ความงามยอดแหลมอาคารสไตล์กอทิก ถนนหินกรวดแบบดั้งเดิมที่มีโบสถ์ยุคกลางช่างน่าประทับใจ เป็นเส้นทางคดเคี้ยวให้ความรู้สึกลึกลับและเคร่งขรึม ขนาบไปด้วยสถาปัตยกรรมย้อนยุค

.

ครั้งหนึ่ง เมืองเคยเป็นบ้านของคหบดีผู้มั่งคั่งที่มาตั้งรกราก ทั้งจากเยอรมนี เดนมาร์ก ฯลฯ แต่เมืองเก่าทาลลินน์ในวันนี้ คือ จุดหมายยอดฮิตจากทั้งคนในท้องถิ่น และนักท่องเที่ยวนานาชาติ เรียงรายไปด้วยร้านอาหาร ผับ บาร์ พิพิธภัณฑ์ และหอศิลปะ ที่เติมชีวิตชีวาให้กับใจกลางเมืองประวัติศาสตร์

.

ทาลลินน์ มีความแตกต่างจากเมืองหลวงอื่นๆ ในยุโรป ที่สามารถอนุรักษ์โครงสร้างต้นกำเนิดจากยุคกลางและฮันเซียติกไว้ได้ทั้งหมด ผังเมืองตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 13 ยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นอาคารสาธารณะ เช่น กำแพงเมือง St. Nicholas Church, Town Hall Square ร้านขายยา โบสถ์ อาราม สมาคมพ่อค้า ร้านช่างฝีมือ ป้อม Toompea โบสถ์ Alexander Nevsky และสถาปัตยกรรมของบ้านคหบดียุคกลาง ซึ่งยังคงเหลืออยู่ราวกับย้อนกลับไปยุคอดีต กระจายตัวไปตามผังเมืองได้อย่างสมบูรณ์มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 13-14

.

เมื่อสหภาพโซเวียตล่มสลายในปี ค.ศ. 1990 เอสโตเนีย เปิดประตูต้อนรับผู้มาเยือนมากขึ้น ไปพร้อมกับการพัฒนาประเทศ และทาลลินน์ ก็กลายเป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวที่ผู้คนได้เห็นความวิจิตรที่ซ่อนตัวมานาน จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่เมืองเก่าทาลลินน์ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ. 1997

.

ที่มารูป : Kaupo Kalda.

ที่มา : https://mgronline.com/travel/detail/9650000116182

"ดีวาน่า ซิกเนเจอร์ คาเฟ่" มาร้านนี้ต้องถ่ายรูป ชั้น 2 โซนเอเทรียม เซ็นทรัลเวิลด์

ดีวาน่า ซิกเนเจอร์ คาเฟ่ (Divana Signagure Café) ร้านอาหาร+คาเฟ่ และที่จิบชาในสวนสวย ต่อยอดมาจาก ดีวาน่า สปา

.

ปลายปีนี้แนะนำเมนู ครอฟเฟิล คือครัวซองต์ + วาฟเฟิล จับคู่กับชายามบ่าย พร้อมส่งเจ้าหมีเท็ดดี้ เป็นของขวัญปีใหม่ในรูปแบบรูมสเปรย์ กลิ่นซิกเนเจอร์ของดีวาน่า 4 กลิ่น (เลือกตามชอบ) 

.

Divana จับมือกับ Teddy House ออกแบบ Divana X Teddy House หมีเท็ดดี้ในกล่องกับรูมสเปรย์ เท็ดดี้มี 4 ชุด คือชุดไทย 2, ชุดสากล 2 (หมีผู้หญิงและหมีผู้ชายให้เลือก) เปิดหัวเจ้าหมีออกข้างในเป็นหัวฉีดรูมสเปรย์ ผลิตจำนวนจำกัด ราคา 990 บาท

.

มาร้านนี้ต้องถ่ายรูป...ตอนนี้ ดีวาน่า ซิกเนเจอร์ คาเฟ่ แนะนำเมนูใหม่ ครอฟเฟิล 6 อย่าง จับคู่กับ Afternoon Tea Set เลือกได้ 4 อย่าง กับชารสชาติที่ชอบ ราคา 590++บาท รับประทานได้ 1-2 ท่าน

.

ชาแต่ละกลิ่นให้คุณสมบัติแตกต่างกัน เช่น Amarita Jasmine ชามะลิ มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดคอเลสเตอรอล, Prana Lemongrass ชาตะไคร้ ช่วยย่อยอาหาร ลดความดัน, Pitta Ginger Olive ชาขิง ช่วยระบบเผาผลาญ ลดปวดหัวไมเกรน, White Orchid Holistic ช่วยให้ผ่อนคลาย หลับสบาย ฯลฯ

.

เลือกชาจับคู่กับ ครอฟเฟิล เทรนด์ขนมอบล่าสุด ทำจากแป้งครัวซองต์สดทำเป็นรูปวาฟเฟิล ดีไซน์ให้เป็นคำเล็ก ๆ ท็อปปิ้ง 6 แบบ เช่น สตรอว์เบอร์รี่สดกับครีมสด, หน้าแซลมอนรมควันกับแตงกวาดอง, หน้าพอร์คบอลล์, กรีนที ครีมชีส ฯลฯ

.

ใครคิดถึงสโคนในตำนาน จับคู่กับชา ราคา 1,250++บาท รับประทานได้ 2-3 ท่าน ในเซตมีอาหารคาว-หวาน อิ่มคุ้ม เช่น วุ้นดอกไม้ทำมือ ขนมผกากรอง เค้กมะพร้าวมินิ, เค้กมะนาว, กรีนทีครัมเบิ้ล, ช็อกโกแลตลาวา, ปอเปี๊ยะสด, ไก่สะเต๊ะ และข้าวเหนียวมะม่วง จัดสวยมาพร้อมควัน ถ่ายรูปสนุกมุมไม่ซ้ำ

.

ยังมีเมนูอาหารคาว-หวาน และเครื่องดื่มหลากหลาย กินทั้งเดือนไม่ซ้ำ ทั้งสลัด ซุป อาหารทานเล่น และเมนคอร์สจานใหญ่

.

เมนูยอดนิยมเช่น พาสต้าหมูกรอบ พาสต้าคาร์โบนาร่า พาสต้ามีทบอลล์สูตรคุณแม่ เป็ดกงฟี สลัดไก่ซูวี เป็ดกงฟีเบอร์เกอร์ สเต๊กแซลมอนกับสลัดปวยเล้งและไข่ลาวา สเต๊กเนื้อวากิว  พอร์คช็อป ขาแกะอบ ฯลฯ

.

ประเภทแซนด์วิชเปิดหน้ารวมคาว-หวาน ตกแต่งสวยน่ากิน เช่น อโวคาโดไข่ออนเซ็น มิกซ์เบอร์รี่ครีมชีส สตรอว์เบอร์รีครีมชีส ไก่เพสโต้ ฯลฯ ของว่างอย่างไทยเช่น เมี่ยงกลีบบัว แตงโมปลาแห้ง ประเภทโทสต์ก็เยอะ เช่น ฮาวายเอี้ยนเฟรนช์โทสต์ แซลมอนรมควันกับผักสด มะม่วงสดเฟรนช์โทสต์ ฯลฯ

.

อาหารสวย บรรยากาศดี ดูหรูหรา และอาหารก็กินอร่อยด้วย ดีวาน่า ซิกเนเจอร์ คาเฟ่ ชั้น 2 โซนเอเทรียม เซ็นทรัลเวิลด์ เปิดบริการ 10.00 – 21.30 น. โทร.0 2252 2614, FB: Diavana Signature Café

.

ที่มา: https://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/food/1041341

พลาดไม่ได้แล้ว !! รวม รองเท้าผ้าใบฮิต ผู้ชายก็ใส่ได้ ผู้หญิงใส่ก็ดี

วันนี้ Cloud47 ขอนำเสนอกับ 5 รองเท้ายอดฮิต ที่ไม่ว่าจะผู้หญิงหรือผู้ชายจะใส่ก็ได้หมด

.

แถมยังเป็นรองเท้าที่ใส่ได้กับแทบทุกลุค พร้อมกับใส่สบายอีกต่างหาก

.

สำหรับใครที่กำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะเลือกซื้อคู่ไหนดีถือว่าห้ามพลาด เริ่มกันด้วยคู่แรก

 

1. VANS OLD SKOOL - BLACK/WHITE

สำหรับรองเท้าผ้าใบยอดฮิตคู่แรก ที่อยากแนะนำ คงจะเป็นอะไรไปไม่ได้ ถ้าไม่ใช่ VANS OLD SKOOL - BLACK/WHITE บอกเลยว่าคู่นี้แทบจะเป็นซิกเนเจอร์ของยี่ห้อแวนส์เขาเลย เพราะไม่ว่าจะผ่านมากี่ยุคกี่สมัยก็ไม่มีรุ่นใด

.

2. Nike Air Jordan 1 Zoom CMFT

สำหรับรองเท้าผ้าใบยอดฮิตคู่ถัดมา ขอแนะนำ Nike Air Jordan 1 Zoom CMFT อีกหนึ่งคู่ที่ตอนนี้คนฮิตใส่กันทั่วบ้านทั่วเมือง เพราะไม่ใช่แค่รูปลักษณ์ที่ถูกดีไซน์ออกมาได้อย่างโดดเด่น มีความเท่ห์ตามแบบฉบับของ Nike แต่ยังมีเรื่องของความทนทาน และน้ำหนักที่เบา ทำให้สวมใส่สบายอีกด้วย

.

3.Adidas Originals SUPERSTAR

ถัดมากันที่ อีกหนึ่งรองเท้าผ้าใบยอดฮิตตลอดการอย่าง adidas Originals SUPERSTAR ที่ออกแบบมาในยุค 70 ซึ่งในปัจจุบันกลายมาเป็นไอเท็มที่ชาวสตรีทในยุคนี้ต้องรู้จัก เขามากับดีไซน์หัวรองเท้าสุดเป็นเอกลักษณ์รูปเปลือกหอย เพราะฉะนั้นรับประกันเลยว่าใครใส่ก็เท่ห์

.

4. Onitsuka Tiger MEXICO66

อีกหนึ่งคู่ที่ขาดไม่ได้ นั่นก็คือ Onitsuka Tiger MEXICO66 คู่นี้เขาได้รับแรงบันดาลใจมาจากรองเท้าวิ่งของ Onitsuka Tiger หลายๆรุ่น มารวมกัน สำหรับการดีไซน์ บอกเลยว่าจะใส่ไปไหนก็ดูดี เข้ากับทุกลุค ส่วนเรื่องของคุณภาพ แบรนด์นี้เขาได้รับเลือกไปใช้ในทีมนักกีฬาของญี่ปุ่นในโอลิมปิกปี 1968 ดังนั้นเรื่องของความทนทานรับรองว่าดีไม่แพ้ความสวยงามแน่นอน

.

5. CONVERSE CHUCK TAYLOR ALL STAR MALDEN STREET

ถ้าพูดถึงรองเท้าผ้าใบ เชื่อว่าหลายๆคนต้องนึกถึงแบรนด์นี้ นั่นก็คือ CONVERSE และรุ่นที่จะมาแนะนำก็เป็นรุ่นสุดคลาสสิคอย่าง CONVERSE CHUCK TAYLOR ALL STAR MALDEN STREET และคู่นี้ เขาพิเศษตรงที่ทำมาจากวัสดุรีไซเคิลประมาณ 50% บอกเลยว่านอกจากจะเท่ห์ สวมใส่สบายแล้ว ยังเป็นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าด้วย

.

ครบแล้วกับ 5 รองเท้าที่น่าซื้อเพราะไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายก็ใส่ได้ แถมยังใส่แล้วคลองตัวสุดๆ

เซ็นทรัล เอ็มบาสซี

เซ็นทรัล เอ็มบาสซี ได้เนรมิตแลนด์มาร์คแห่งความสุข ต้อนรับเทศกาลปีใหม่นี้ และคริสต์มาสใน งาน CENTRAL EMBASSY PRESENTS “LET’S CELEBRATE 2023” เนรมิตทั่วทั้งศูนย์การค้าให้อยู่ท่ามกลางบรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาส และปีใหม่ในคอนเซ็ปต์ FLOATING HAPPINESS ปล่อยความสุข ให้ล่องลอยไปกับดินแดนแห่งความฝัน

.

ร่วมตื่นตาตื่นใจไปกับการประดับตกแต่ง ต้นคริสต์มาส แบบ Inflatable Art ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กับความสูงกว่า 13 เมตร ที่สร้างสรรค์โดยศิลปินชื่อดังระดับโลกชาวฝรั่งเศส Mr.Cyril Lancelin มีชื่อเสียงอันโด่งดังจากการสร้างสรรค์ผลงานประติมากรรมแบบ Inflatable Art สีชมพูขนาดใหญ่ยักษ์ “The KNOT” พร้อมด้วยกิจกรรมและไฮไลท์สุดพิเศษมากมาย ตั้งแต่ 15 พฤศจิกายน 2565 - 8 มกราคม 2566 นี้

.

ที่มา TrueID, CENTRAL EMBASSY

.

‘Gas Grows Zerotopia 2022’ ปตท.หาแนวทางการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสนับสนุนการก้าวไปสู่สังคม Net Zero

ปตท. จัดงาน Gas Grows Zerotopia 2022 ส่งเสริมการจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ      ยกระดับอุตสาหกรรมไทยสู่ Net Zero Emissions

.

หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เป็นเจ้าภาพจัดงานเสวนาวิชาการและนิทรรศการ Gas Grows Zerotopia 2022 เมื่อวันที่ 25 - 26 พฤศจิกายน 2565 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค  โดยมี ม.ล. ปีกทอง ทองใหญ่ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ นางสุณี อารีกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ระบบท่อจัดจำหน่ายก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ร่วมงาน เพื่อส่งเสริมความรู้ความเข้าใจ พร้อมให้การสนับสนุนเกี่ยวกับการจัดการพลังงาน รวมถึงปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้เครื่องจักรให้กับผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นการลดภาระต้นทุนในช่วงสถานการณ์ราคาพลังงานที่ผันผวน โดย ม.ล. ปีกทอง ได้ร่วมเสวนาในหัวข้อ “สถานการณ์พลังงานและแนวทางการนำไปสู่เป้าหมาย Net Zero” ทั้งนี้ ปตท. ในฐานะประธานเครือข่ายคาร์บอนนิวทรัลประเทศไทย (Thailand Carbon Neutral Network: TCNN) มุ่งหวังสร้างความร่วมมือกับภาคีต่าง ๆ ในการตระหนักและผลักดันทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมลดก๊าซเรือนกระจก พร้อมทั้งส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อมุ่งไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์

.

ภายในงานมีการจัดแสดงผลิตภัณฑ์และบริการจากบริษัทในกลุ่ม ปตท. และหน่วยงานภาครัฐ ที่มีศักยภาพในการส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดในภาคอุตสาหกรรมและโรงไฟฟ้า ตลอดจนผู้เชี่ยวชาญจากภาคอุตสาหกรรมและหน่วยงานชั้นนำของประเทศร่วมแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ด้านการจัดการพลังงานของภาคอุตสาหกรรมอย่างครบวงจร นอกจากนี้ ยังเป็นการถ่ายทอดองค์ความรู้เกี่ยวกับสถานการณ์พลังงานให้แก่บุคคลทั่วไป เพื่อสนับสนุนการก้าวไปสู่สังคม Net Zero ตามเจตนารมณ์ของ ปตท. ที่พร้อมมุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero Emissions ภายในปี ค.ศ. 2050


TRENDING
© Copyright 2022, All rights reserved. CLOUD47Bangkok
Take Me Top