เข้าฤดูหนาวแล้ว ได้เวลาออกชิล! วันนี้ขอแนะนำราคาจองตั๋วเครื่องบินคุ้มๆ กับแอร์เอเชีย✈️
จองเลย! https://app.airasia.com/F4uy/tv2f4lot
.
✅เส้นทางบินในประเทศ
ราคาสมาชิก airasia เริ่มต้นที่ 699 บาท (เที่ยวเดียว)
ราคาบุคคลทั่วไป 742 บาท
.
✅เส้นทางบินต่างประเทศ
ราคาสมาชิก airasia เริ่มต้นที่ 1,550 บาท (เที่ยวเดียว)
ราคาบุคคลทั่วไป 1,590 บาท
.
จองด่วน 21 พ.ย. 2565 - 27 พ.ย. 2565
เดินทาง 5 ธ.ค. 2565 - 30 มิ.ย. 2566
.
*โปรโมชั่นพิเศษมีจำนวนจำกัดและอาจไม่มีให้บริการในบางเที่ยวบินในและต่างประเทศของรหัสเที่ยวบิน FD และบางช่วงของวันหยุดยาว ราคาบัตรโดยสารไม่รวมค่าบริการเสริมและค่าธรรมเนียมต่างๆ ราคาที่แสดง/ปรากฎคือราคาถูกสุดเมื่อจองผ่าน airasia.com และ Mobile App เพียงสมัครสมาชิก airaisa ลดเพิ่ม 40 บาท เป็นไปตามข้อกำหนดและเงื่อนไขของบริษัทฯ
.
**เส้นทางบินในประเทศ ราคาสมาชิก airasia เริ่มต้นที่ 699 บาท (เที่ยวเดียว) เริ่มเดินทางวันที่ 9 มกราคม 2566 เป็นต้นไป
กระแสตอบรับดีเกินคาด!! DITP Berlin เปิดสอนสาธิตขั้นตอนปรุงอาหารไทยในเยอรมนี ตั้งเป้ารับสมัครเพียง 40 ราย แต่มีผู้สมัครจริงเกือบ 500 ราย!!
(21 พฤศจิกายน 2565) DITP Berlin หรือ สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ได้แจ้งว่าโครงการ Tatse of Thai โครงการสาธิตการปรุงอาหารและร่วมทำอาหารไทยในเมืองเบอร์ลินได้รับการตอบรับดีอย่างล้นหลามเกินความคาดหมาย โดยเริ่มต้น ตั้งเป้าเปิดรับสมัครผู้เข้าร่วมเพียงแค่ 40 ราย แต่ปรากฎว่ามีผู้ให้ความสนใจสมัครถล่มทลายกว่า 427 ราย!
ขณะที่เพจ 'พ่อบ้านเยอรมัน' ได้ อธิบายเพิ่มเติมถึงเนื้อหาในงานว่า ผู้จัดได้สาธิตการปรุงอาหารไทย 3 เมนูยอดนิยม ประกอบด้วย"ยำส้มโอ ข้าวซอยไก่ และข้าวเหนียวมะม่วง" นอกจากนี้ยังมีการจับคู่อาหารกับเครื่องดื่ม หรือ Food Pairing ณ Cooking Studio ใจกลางกรุงเบอร์ลิน ผลปรากฏว่า ประสบความสำเร็จเหนือความคาดหมาย
โดยเป้าหมายของโครงการนี้คือ ต้องการขยายฐานลูกค้าซึ่งเป็นผู้บริโภคโดยตรง รวมถึงผู้ประกอบการที่มีส่วนเกี่ยวข้องให้เกิดความคุ้นเคย เชื่อมั่น ในรสชาติ และคุณภาพของอาหารไทย ตลอดจนสร้างการรับรู้ ภาพลักษณ์เชิงบวก และทัศนคติที่ดีให้แก่สินค้าอาหารไทยต่อไป
#TheStructureNews
#DITP #ThaiFood
ที่มา : สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเบอร์ลิน DITP Berlin
ที่มา : เพจพ่อบ้านเยอรมัน
สาวๆ ห้ามพลาด ! เปิดกรุ 10 กระเป๋ายอดฮิต ช้อปส่งท้ายปี 2022
กระเป๋าไอเทมคู่กายผู้หญิงหลายคนในยุคนี้ เรียกได้ว่ากระเป๋าแต่ละใบ ก็มีเอกลักษณืที่ต่างกัน ขึ้นอยู่กับผู้ใช้งานแต่ละคน วันนี้ Cloud47x จะพามาเปิดกรุ 10 กระเป๋ายอดฮิต ส่งท้ายปี 2022 เผื่อสาวๆ คนไหนลังเลจะซื้อ จะได้รีบไปตำต้อนรับปี 2023 กัน เริ่มด้วยที่
.
1. Prada Cleo
สำหรับใครที่กำลังมองหากระเป๋าจาก Prada รุ่นใหม่ ๆ และเป็นนิยมในขณะนี้ คุณไม่ควรพลาด “Prada Cleo” ด้วยประการทั้งปวง ต้องบอกเลยว่ากระเป๋าใบนี้มาพร้อมกับความหรูหราที่ดูเรียบง่ายแต่โก้หรู พร้อมกับรูปทรงที่ดูโฉบเฉี่ยวคล่องตัวทั้งขนาดและในเรื่องของดีไซน์ก็ต้องยอมรับเลยค่ะว่าไม่สามารถละสายตาได้เลยจริง ๆ
.
2. Dior Caro
Dior Caro กระเป๋าแบรนด์เนมใบหรูที่สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างสูง นอกจากจะใช้ดีไซน์ที่ช่วยสะท้อนความเป็นผู้หญิงแล้วก็ยังมีการออกแบบที่ผสมผสานระหว่างความทันสมัยและความสวยงามเหนือกาลเวลาออกมาได้อย่างลงตัวสุด ๆ
.
3. Gucci Horsebit 1955
“Gucci Horsebit 1955” จากคอลเลกชัน Cruise 2020 และความพิเศษของกระเป๋าใบนี้ก็คือการดึงเอาการดีไซน์ Horsebit หรือที่เรียกกันว่าตะขอปากม้าที่ถือกำเนิดขึ้นในปี 1955 มาใช้เป็นส่วนหนึ่งของกระเป๋าซึ่งนี่ก็ถือเป็นครั้งแรกของ Gucci เลยค่ะ ทำให้เรารู้สึกว่ากระเป๋าใบนี้ไม่ธรรมดาจริง ๆ
.
4. YSL Saint Laurent Solferino
สำหรับรุ่นนี้ที่เราเลือกมาป้ายยาสาว ๆ ในวันนี้ก็คือรุ่น Solferino สำหรับสาว ๆ คนไหนที่เป็นบลิงค์ของวง Blackpink ก็คงจะจะคุ้นตากันเป็นอย่างดี เพราะโรเซ่เองก็เคยสะพายกระเป๋ารุ่นนี้เช่นกัน ถึงจะมีขนาดที่เล็กหน่อยแต่ก็พอจะจุของใช้สำคัญ ๆ ได้หลายอย่าง ทั้งยังมีหน้าตาที่สวยงาม เรียบแต่หรู แมทช์ได้ทุกลุค
.
5. Celine Triomphe
มาต่อกันที่แบรนด์สุดหรูสัญชาติฝรั่งเศสอย่าง Celine กันบ้างค่ะ ซึ่งต้องบอกเลยว่าพักหลังมานี้ Celine ก็กลายเป็นแบรนด์ที่ทุกคนให้ความสนใจกันเป็นอย่างมากเนื่องจากได้ลิซ่า Blackpink ซึ่งรุ่น Celine Triomphe สี Tan เป็นกระเป๋าสะพายไหล่ ที่มาพร้อมกับสายสะพายโซ่สีทองอร่ามที่มีน้ำหนักกำลังดี
.
6. Louis Vuitton Pochette Accessoires
Louis Vuitton Pochette Accessoires คือกระเป๋าแบรนด์เนมที่จัดให้เป็นแรล์ไอเท็มที่เป็นที่ต้องการเป็นอย่างมากและก็ในช้อปตอนนี้ก็ยังไมมีเข้ามาเลย สามารถใส่ของใช้ที่จำเป็นได้หลายชิ้น โดยที่ไม่เป็นผลต่อทรงกระเป๋าใด ๆ ทั้งสิ้นค่ะ สาว ๆ จะใช้แบบสะพายข้างก็ได้ระดับที่สวยเลิศหรือหากว่าสาว ๆ เบื่อการใช้งานแบบสะพายสาว ๆ จะถอดสายออกแล้วใช้งานแบบถือก็ดูเก๋เป็นสาวสายแฟไปอี๊ก
.
7. CHANEL 19 HANDBAG
สำหรับ CHANEL 19 ก็เป็นอีกหนึ่งรุ่นค่ะที่เป็นที่สุดแถมยังเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ภายในใส่ของใช้ได้เยอะมากเหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันที่สุดค่ะสาว ๆ และที่ขาดไม่ได้เลยคือด้านหลังยังมาพร้อมกับช่องใส่ของที่เหมาะสำหรับใส่โทรศัพท์มือถือ โดยที่สาว ๆ ไม่จำเป็นต้องเปิดกระเป๋าให้เสียเวลา
.
8. Bottega Veneta Mini Jodie Bag
สำหรับรุ่นที่เราเลือกมานำเสนอในวันนี้ก็จะเป็นรุ่น Mini Jodie Bag ขนาดกะทัดรัด โดยรุ่นนี้จะมีด้วยกันหลากหลายสีมาก ๆ ค่ะ สาว ๆ สามารถเลือกได้ตามใจชอบทั้งสีสุดคลาสสิคอย่างสีดำหรือจะเป็นสีสันสดใสเพื่อให้ดูเข้ากับลุคที่ดูสนุกสนาน กระเป๋ารุ่นนี้ก็ให้คุณได้
.
9. Balenciaga Hourglass
alenciaga Hourglass กลายมาเป็นอีกหนึ่งกระเป๋าแบรนด์เนมที่มาแรงไม่แพ้รุ่นอื่น ๆ เลย การใช้งานสามารถใช้ได้สองแบบค่ะคือแบบถือหรือจะสะพายก็ได้เช่นกันค่ะ แต่เชื่อว่าสิ่งที่เตะตาสาว ๆ หลายคนคงจะไม่ใช่การใช้งานแต่คงจะเป็นรูปทรงของกระเป๋าใช่ไหมล่ะคะ เพราะว่ารุ่นนี้ดีไซน์ออกมาได้ไม่ธรรมดาจริง ๆ ค่ะ มีความชิค เปรี้ยว ขี้เล่น และดูถือแล้วกลายเป็นสาวสายแฟมาก ๆ
.
10. Hermès Birkin
และสำหรับกระเป๋าแบรนด์เนมใบสุดท้ายก็จะแน่นอนค่ะว่าจะต้องเป็น Hermès Birkin กระเป๋าแบรนด์เนมสุดหรูที่เงินแค่อย่างเดียวไม่สามารถจะได้กระเป๋ามาครอบครองอย่างง่าย ๆ สำหรับ Hermès Birkin นั้นเป็นกระเป๋าที่หลาย ๆ คนยอมจ่ายไม่ว่าจะมาด้วยราคาเท่าไหร่ ไม่ใช่แค่เพราะได้ยากเท่านั้นแต่กระเป๋ารุ่นนี้ยังผลิตมาจากวัสดุขั้นสูง ใช้งานได้นานสุด ๆ
.
เป็นยังไงบ้างกับ 10 กระเป่า ที่สายแฟอย่างเราๆ ห้ามพลาด ใครมีใบไหน หรือยังไม่มีต้องรีบตำ ไม่งั้นตกกระแสแน่จ้า
.
แหล่งที่มา : https://bestreview.asia/best-brand-name-bags-popular-new-collection/
หลังจากเป็นปรากฏการณ์ Soft Power เกี่ยวกับอาหารไทยไปตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาสำหรับอาหารที่เชฟชุมพล แจ้งไพร รังสรรค์ไปเสิร์ฟขึ้นโต๊ะผู้นำเอเปค วันนี้ (21พ.ย.65) ร้าน R-HAAN ร้านระดับสองดาวมิชลินของไทย เปิดประสบการณ์ให้คนทั่วไปได้ลิ้มลองเมนูเหล่านั้นแล้ว
.
“ร้านอาหาร R-HAAN” ร้านระดับ 2 ดาวมิชลินต่อเนื่องทุกปีนับตั้งแต่ปี 2019 เป็นร้านได้รับโอกาสรังสรรค์เมนูสุดพิเศษ สำรับต้อนรับผู้นำเขตเศรษฐกิจ 21 ประเทศ ภายใต้แนวคิด "Sustainable Thai Gastronomy - ภูมิปัญญาอาหารไทยอย่างยั่งยืน” คัดสรรวัตถุดิบชั้นเยี่ยมจากแหล่งผลิตท้องถิ่นทั่วประเทศไทย
.
ในวันนี้ “ร้านอาหาร R-HAAN" โดย เชฟชุมพล แจ้งไพร เชฟผู้ร่วมก่อตั้งร้านอาหาร ขอนำเสนอเมนูสำรับ "ตามรอยผู้นำเอเปค 2022"
.
เมนูเดียวกับ สำรับต้อนรับผู้นำเขตเศรษฐกิจ 21 ประเทศ มาให้ผู้สนใจได้รับประสบการณ์อาหารสุดพรีเมียมในแบบเดียวกัน
.
โดยในสำรับประกอบไปด้วย
.
อะมูสบุช เสิร์ฟในเมนู “กระทงทองไส้ครีมซอสและไข่ปลาสเตอร์เจียนคาเวียร์โครงการหลวงดอยอินทนนท์”
.
อาหารเรียกน้ำย่อย “Welcome To Thailand” นำเสนออาหารไทย 4 ภาค ขนาดพอดีคำ วางบนแผนที่ประเทศไทยประจำแต่ละภาค อันได้แก่
.
แอ่วเหนือ – ข้าวซอยหมี่กรอบไทยล้านนา
.
เที่ยวกลาง – ต้มยำทอดมันกุ้งแม่น้ำกรุงศรีอยุธยา
.
ยามอีสาน – โคราชวากิวย่างถ่านสมุนไพรจิ้มแจ่ว
.
ล่องใต้ – ไก่เบตงย่างกอและ
สลัด ในเมนู “ยำใหญ่ผักออแกนิก 9 อย่างจากวิสาหกิจชุมชนทั่วทุกภาคของเมืองไทย กับไก่ออร์แกนิกและกุ้งงมังกร 7 สีภูเก็ต พร้อมไข่เป็ดไร่ทุ่งเมืองสุพรรณบุรีดองดอกเกลือเมืองเพชร”
.
เมนคอร์ส เสิร์ฟข้าวพร้อมอาหาร 3 อย่าง อันได้แก่ “แกงมัสมั่นชาววังเนื้อน่องโคขุนจากสหกรณ์โพนยางคำสกลนครและผักไทยรวมราตาตูย” “ปลาเก๋ามุกออแกนิกจากทะเลภูเก็ต พร้อมซอสต้มข่าเห็ดรวมโฟมใบมะกรูด” “ข้าวหอมมะลิไทยจากทุ่งกุลาร้องไห้และข้าวกล้อง 9 ชนิดอบตะไคร้หอม”
.
ของหวาน 2 เมนู อันได้แก่ “ขนมหม้อแกงเผือกภูเขาและเม็ดบัวซอสผลไม้ไทย เสิร์ฟพร้อมกับซอร์เบท์เสาวรสน้ำผึ้งดอกลำไย”
พร้อมผลไม้ไทยและขนม 5 อย่าง” ได้แก่ ดาราทอง,ช็อคโกแลตไทยเชียงใหม่ไส้บรั่นดีไทยกระชายดำ, ขนมมะลิไส้มะพร้าว, มาการองลิ้นจี่, ขนมเปียกปูนใบเตย เสิร์ฟ์คู่กับชาเฟลอ ดู นอร์ท จากเมืองเหนือหรือยอดกาแฟเมืองน่าน
.
โอกาสพิเศษนี้มี เฉพาะวันที่ 21 พฤศจิกายน - 4 ธันวาคม 2565 เท่านั้น
.
ราคา 5,212++ บาทต่อท่าน
.
ร้าน R-HAAN
.
โทร. 095-141-5524 (13.00-17.00)
.
FB @RHAANThai
.
ฉลอง 100 ปี ช็อกโกแลต “Valthona” แบรนด์แห่ง "ความยั่งยืน" ชวนกินช็อกโกแลต ทั้งแบบอาหารคาว-หวาน
แบรนด์ ช็อกโกแลตจากชื่อดังจากฝรั่งเศส "Valrhona" (วาลโรห์น่า) จัดงานฉลองครบ 100 ปี พร้อมประกาศเป็นแบรนด์ "ช็อกโกแลต" แห่ง "ความยั่งยืน"
.
โดย Valrhona (วาลโรห์น่า) ถือกำเนิดที่ประเทศฝรั่งเศส โดยเพสทรี่เชฟ Alberic Guironnet จาก Rhone Valley เมื่อปี ค.ศ.1922 ในหมู่บ้านเล็ก ๆ ชื่อ Tain ในย่าน Hermitage ทางตะวันออกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส ซึ่งเป็นพื้นที่ปลูกไวน์ AOC และผลิตชีสที่สำคัญในเขตเมืองลียง
.
ซึ่งปีนี้ Valrhon มีอายุครบ 100 ปี พัชรินทร์ เหมอังกูร กรรมการผู้จัดการ บริษัท กูร์เมท์วัน ฟู้ดส์เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าช็อกโกแลต Valrhon จัดงาน 100 years of commitment ที่ @Bar โรงแรมแบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค ชวนกินช็อกโกแลตหลากหลายรูปแบบ ทั้งอาหารคาว-หวาน
.
Valrhona สร้างชื่อเสียงในฐานะช็อกโกแลตพรีเมี่ยม สำหรับเพสทรี่เชฟ หรือเชฟขนม ทำขนม-เครื่องดื่ม และจำหน่ายช็อกโกแลตบาร์หลายรสชาติ อีกทั้งเปิดโรงเรียนสอนเพสทรี่เชฟทำขนม Ecole du Grand Chocolat ปี 2015 เปิดสาขาที่บรุคลิน และอีก 2 แห่งในฝรั่งเศสและญี่ปุ่น
.
ทั้งนี้เมื่อสองปีที่ผ่าน ช็อกโกแลตจากฝรั่งเศส ชูนโยบายแห่งความยั่งยืน โดยรับซื้อผลผลิตโกโก้อย่างเป็นธรรมและโปร่งใส จากแหล่งปลูกราว 80 พื้นที่ใน 22 ประเทศ โดยติดต่อกับคนปลูกโดยตรงเพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ ตรวจสอบการปลูก การเก็บเกี่ยว การหมักผลโกโก้ ด้วยวิถียั่งยืน
.
และลดการใช้พลาสติกในบรรจุภัณฑ์ นอกจากนี้ในปีที่ผ่าน Valrhona เริ่มต้นปลูกโกโก้และจัดการผลผลิตโกโก้ของตัวเอง แห่งแรกในประเทศเวเนซูเอล่า และสาธารณรัฐโดมินกัน เพื่อให้ได้ผลผลิตและคุณภาพตามที่ต้องการ
.
ปี 2020 ได้ใบประกาศ B-Corp (Certified B Corporation, B-Lab) เป็นองค์กรเอกชนที่วางกฎเกณฑ์ภาคธุรกิจที่ดำเนินธุรกิจเพื่อชุมชนและรักษาสิ่งแวดล้อม เพื่อรับรองคุณสมบัติตามที่กำหนด โดยจะตรวจสอบการดำเนินธุรกิจทุก ๆ 3 ปี ปัจจุบันมีธุรกิจกว่า 5,697 บริษัท ใน 158 อุตสาหกรรม จาก 85 ประเทศที่ได้ใบรับรอง B-Crop
.
งานฉลองครบ 100 ปี Valrhona ชวนชิมอาหารคาวจากช็อกโกแลต 2 เมนู ได้แก่ ชอร์ตริบสตูว์ โดยเชฟอ่ำ - อิทธิ นิตยาพร แห่งโรงแรมแบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ฯ ทำสตูว์จากเนื้อที่หมักโกโก้และซูวีอีก 36 ชั่วโมง ก่อนนำมาตุ๋นเป็นสตูว์ พร้อมเติม Valrhona Guanaja ดาร์กช็อกโกแลต 70% ลงไปเคี่ยวเพิ่ม เพื่อให้เนื้อสัมผัสมีรสหวานอมขอ เสิร์ฟกับมันฝรั่งพูรี และเมนูแซลมอนรมควัน ที่เพิ่มผงโกโก้ลงไปให้ได้กลิ่นและรส ของหวานได้แก่ ขนมชั้นแบบไทย ๆ ผสมช็อกโกแลต และขนมปาเล่ต์ ลอร์ (Palet L’or) แปลว่าก้อนทองคำ ทำจาก Valrhona Komuntu 80% สูตรเฉพาะจากเพสทรี่เชฟทั่วโลก 100 คน มาออกแบบช็อกโกแลตก้อนทองรูปหัวใจ เพื่อฉลองครบ 100 Years of commitment ประกาศคำมั่นสัญญาในการสร้างสรรค์ช็อกโกแลตแห่งความยั่งยืนให้กับโลกใบนี้
.
ที่มา : https://www.valrhona-chocolate.com
ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/food/1038706
มิชลิน ไกด์ ประเทศไทย เปิดรายชื่อร้านอาหารที่ได้รับสัญลักษณ์ บิบ กูร์มองด์ 2566 พบมีทั้งสิ้น 189 ร้าน ในจำนวนนี้มี 53 ร้านได้รับการจัดอันดับครั้งแรก
.
มิชลิน ไกด์ ประเทศไทย ปลุกกระแสความสนใจก่อนงานประกาศผลรางวัลดาวมิชลินและการวางจำหน่ายคู่มือ มิชลิน ไกด์ ประเทศไทย
.
ฉบับประจำปี 2566 ด้วยการเผยรายชื่อร้านอาหารและสตรีทฟู้ดคุณภาพดีราคาย่อมเยาที่ผ่านการคัดเลือกจนได้รับสัญลักษณ์ "บิบ กูร์มองด์" (Bib Gourmand) ประจำปี 2566 โดยมีทั้งสิ้น 189 ร้าน แบ่งเป็นร้านใหม่ที่ได้รับจัดอันดับครั้งแรก 53 ร้าน
.
ในจำนวนร้านอาหารที่ผ่านการคัดเลือกให้ได้รับสัญลักษณ์บิบ กูร์มองด์ ตั้งอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล 82 ร้าน และอีก 13 ร้าน ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
.
ที่ภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ มีด้วยกัน 27 ร้าน และที่ภาคใต้ ในจังหวัดภูเก็ต 23 ร้าน, พังงา 11 ร้าน และ 33 ร้าน ใน 4 เมืองตัวแทนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
.
อย่างที่ทราบกัน มิชลิน ไกด์ ประเทศไทย ฉบับประจำปี 2566 ได้ขยายขอบเขตการคัดเลือกร้านอาหารไปยังภาคอีสานเป็นครั้งแรก โดย 9 ร้านอยู่ในนครราชสีมา, 11 ร้าน ในขอนแก่น, 6 ร้าน ในอุบลราชธานี และ 7 ร้าน ในอุดรธานี
.
แนวคิดของสัญลักษณ์บิบ กูร์มองด์ เป็นการสื่อความหมายไปถึงร้านอาหารและร้านอาหารสตรีทฟู้ด ที่มีการนำเสนออาหารคุณภาพดี มีการจัดเตรียมที่พิถีพิถัน และที่สำคัญมีราคาไม่แพงไม่เกิน 1,000 บาท
.
จุดที่น่าสนใจของประเทศไทยอยู่ตรงที่ ประเทศไทยได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่มีอาหารสตรีทฟู้ดที่น่าสนใจเป็นจำนวนมาก จึงทำให้ร้านอาหารสตรีทฟู้ดที่ได้รับสัญลักษณ์ บิบ กูร์มองด์ 2566 มากถึง 84 ร้าน ซึ่งจุดนี้สะท้อนให้เห็นถึงอัตลักษณ์ของอาหารไทย
.
และสามารถเรียกได้ว่าเป็นดินแดนสวรรค์ด้านสตรีทฟู้ด ในส่วนร้านอาหารระดับภัตตาคารได้รับ “บิบ กูร์มองด์” ทั้งสิ้น 105 ร้าน
.
ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่: https://www.thairath.co.th/lifestyle/food/2555561
คนไทยไม่ต้องกักตัว ไต้หวันเอาใจนทท. ให้บัตร ซื้อชานมไข่มุก ช้อปปิ้งสินค้าฟรี
สำนักงานการท่องเที่ยวไต้หวัน ประจำกรุงเทพฯ หรือ กทท. เร่งเดินหน้ากระตุ้นการท่องเที่ยวช่วงไฮซีซั่น ออกแคมเปญดึงนักท่องเที่ยวชาวไทย ในกิจกรรม “Taiwan Special Offer, First Gift 1,000 NTD!” พร้อมแนะ 3 ไฮไลต์สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่คนไทยต้องไปสัมผัส ตอกย้ำแนวคิด “ไต้หวัน หัวใจแห่ง เอเชีย” (Taiwan, The Heart of Asia) โดยคาดจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไต้หวันปลายปีกว่า 18,000 ราย สร้างมูลค่าเศรษฐกิจได้กว่า 450 ล้านบาท
คุณซินดี้ เฉิน (Cindy Chen) ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวไต้หวัน ประจำกรุงเทพฯ (กทท.)กล่าวว่า ไต้หวันเปิดประเทศอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกให้ได้เดินทางเข้ามาสัมผัสวัฒนธรรมและเทศกาลที่หลากหลาย พร้อมดื่มด่ำกับความอร่อยของอาหารสไตล์ไต้หวันแท้ ๆ ซึ่งหลังจากเปิดประเทศตั้งแต่สิ้นเดือนตุลาคม 2565 มีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจเดินทางเข้ามาเที่ยวไต้หวันเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ให้ความสนใจ เดินทางมาเป็นกรุ๊ปแรกๆ เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่คนคิดถึงบรรยกาศของการท่องเที่ยวต่างประเทศ และไต้หวันนั้นเป็นจุดหมายปลายทางอันดับต้นๆ ที่คนไทยนึกถึง
โดยในช่วงระยะเวลา 2 ปีของการปิดประเทศที่ผ่านมา ไต้หวันได้มีการพัฒนาและเปิดสถานที่ท่องเที่ยวที่ถือเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่เกิดขึ้นมากมาย พร้อมให้นักท่องเที่ยวชาวไทยไปสัมผัสและทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างเพลิดเพลิน สำหรับ 3 ไฮไลต์สถานที่ท่องเที่ยวที่รอให้ไปสัมผัสประสบการณ์ ได้แก่
Rongjin Gorgeous Time แหล่งรวมสถานที่โดนใจวัยรุ่นแห่งใหม่ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองไทเป เดิมเป็นบ้านพักราชการระดับสูงในสมัยญี่ปุ่นปกครองไต้หวัน สถานที่แห่งนี้ยัง คงอัตลักษณ์การออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมบ้านไม้ชั้นเดียวสไตล์ญี่ปุ่นโบราณ สีน้ำตาลเข้ม หลังคาลาดเอียงเรียบง่ายเรียงรายต่อกัน ภายในประกอบไปด้วยร้านค้ามากมาย อาทิ ร้านอาหาร Always Elegant ร้านขนมเบเกิล Good Cho’s ร้านขนม Jin Jin Ding ร้านแพนเค้กคาเฟ่ Kyushu และคาเฟ่ Simple Kaffa นอกจากนั้นยังมีร้านเช่าเสื้อผ้า สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการใส่ชุดกิโมโนถ่ายภาพเหมือนได้อยู่ในยุคสมัยที่ญี่ปุ่นยังปกครอง อีกทั้งร้านของฝากที่รวบรวมของที่ระลึก รวมถึงร้าน Pet Shop เลือกของฝากสำหรับสัตว์เลี้ยง นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางได้ด้วยรถไฟฟ้า โดยมาลงที่สถานี Dongmen และเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00 – 20.00 น.
Babbuza Dreamfactory โรงงานเพื่อการท่องเที่ยว สำหรับทุกคนในครอบครัว ตั้งอยู่ที่เมืองหนานโถว ไฮไลต์ของที่นี่คือ ต้นไม้ยักษ์ หรือ Tree of Life ที่มีความสูงถึง 30.8 เมตร นักท่องเที่ยวสามารถไต่ระดับความสูงขึ้นไปบนพื้นใสๆ โดยการเดิน หรือถ้าใครชอบความแอดเวนเจอร์สามารถปีน “หน้าผาต้นไม้ยักษ์” หรือโรยตัวลงมาจากเจ้าต้นไม้ยักษ์นี้ก็สามารถทำได้ นอกจากนี้ยังสามารถเรียนรู้วัฒนธรรมไต้หวันผ่านจอ 5 มิติ ที่สัมผัสได้ทั้งรูป รส กลิ่น เสียง และจำลองการใช้ชีวิตของคนไต้หวันโบราณ ผ่านโรงจอดรถเล็ก ๆ ที่รอให้นักท่องเที่ยวทุกท่านเข้าไปเยี่ยมชม เปิดให้บริการเวลา10.00 – 18.00 น. และปิดบริการทุกวันอังคาร
Zhengbin Fishing Harbor หรือ “บูราโนแห่งไต้หวัน” ตั้งอยู่ทางใต้ของเกาะเหอผิง นครจีหลง เป็นท่าเรือที่มีความเก่าแก่แห่งหนึ่งของไต้หวัน และเป็นหนึ่งในสถานที่ จัดงานแข่งเรือมังกรในช่วงเทศกาลไหว้บ๊ะจ่าง และพบกับพิพิธภัณฑ์เรือประมงที่มีชื่อว่า “เรือศิลปะพื้นบ้าน” พิพิธภัณฑ์เรือแห่งแรกที่ตั้งอยู่บนทะเล สำหรับอาคารบ้านเรือนบริเวณนี้ได้รับการเติมแต่งสีสันที่สวยสดงดงาม ในช่วงเวลาสาย ๆ จะพบกับเงาของอาคารสีสดสาดแสงส่องเป็นเงาลงมายังพื้นน้ำสีเขียวมรกตจนถูกเรียกขานกันว่าเป็น “บูราโนแห่งไต้หวัน” สถานที่ที่ถูกใจผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพ นอกจากนั้น สิ่งที่ต้องห้ามพลาดเมื่อมาถึงท่าเรือแห่งนี้ คือการกิน ชิกุวะสไตล์ไต้หวันที่เสียบไม้ย่างร้อน ๆ ที่รับรองว่าหอมอร่อยถูกปากรสชาติคนไทย โดยท่าเรือแห่งนี้เปิดทำการทุกวันและสามารถเดินทางมาได้ด้วย Taiwan Tourist Shuttle
คุณซินดี้ กล่าวเสริมว่า สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยที่สนใจเดินทางมาไต้หวัน การท่องเที่ยวไต้หวันได้จัดโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบทัวร์ ผ่านกิจกรรม “Taiwan Special Offer, First Gift 1,000 NTD!” โดยนักท่องเที่ยวที่ซื้อแพคเกจทัวร์ไต้หวัน ขั้นต่ำ 24,000 บาทกับบริษัททัวร์ที่ร่วมรายการ จะได้รับบัตร Easy Card บัตรที่นิยมใช้ในไต้หวันสามารถใช้แทนเงินสดเพื่อซื้อชานมไข่มุก มาสก์หน้า ช้อปปิ้งสินค้าในตลาดกลางคืนในมูลค่า NT$599 และของที่ระลึกสำหรับการเดินทางอีก 1 ชุดทันที อีกทั้งคนไทยที่ต้องการเดินทางเข้าไต้หวัน ไม่จำเป็นที่จะต้องกักตัว ไม่มีการระบุเงื่อนไขด้านวัคซีน และไม่ต้องขอวีซ่าการเดินทาง เพียงแต่ขอความร่วมมือในการตรวจ ATK ที่ได้รับจากทางสนามบินเมื่อเดินทางถึงไต้หวัน และขอความร่วมมือให้ตรวจทุก 2 วันหากมีการออกนอกที่พัก
“ไต้หวัน ยินดีและพร้อมที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวไทย ให้ได้สัมผัสกับสถานที่ที่สวยงาม เทศกาลต่าง ๆ ตลอดจนวัฒนธรรมและอาหารที่หลากหลาย รอให้ผู้ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวได้มาค้นหาและได้รับประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม สมกับเป็นจุดมุ่งหมายที่ขึ้นชื่อว่าหัวใจแห่งเอเชีย (The Heart of Asia) อย่างไรก็ดีภายหลังจากเปิดประเทศอย่างเป็นทางการพร้อมด้วยมาตรการและกิจกรรมส่งเสริมการตลาดต่าง ๆ คาดว่าในสิ้นปี 2565 นี้ จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศกว่า 18,000 ราย และสร้างรายได้กว่า 450 ล้านบาท” คุณซินดี้ กล่าวทิ้งท้าย
นักท่องเที่ยวสามารถเลือกเดินทางมาสัมผัสประสบการณ์ โดยจัดทริปท่องเที่ยวได้ด้วยตนเอง บินแบบเช่าเหมาลำ หรือเลือกแพ็กเกจท่องเที่ยวที่น่าสนใจได้ผ่าน ในงาน Thailand International Travel Fair (TITF) ที่จะจัดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2566 และหากต้องการทราบข้อมูลด้านการท่องเที่ยวไต้หวันสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.taiwantourism.org/th/ หรือ ช่องทางโซเชียลมีเดีย Facebook : Taiwan Tourism Bureau TH Instagram : taiwantourism.bkk
ที่มา บางกอกทูเดย์
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล 16 พฤศจิกายน 2565
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล 16 พฤศจิกายน 2565
วันนี้ (15 พฤศจิกายน 2565) - สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยังวังจันทร์วัลเลย์ จังหวัดระยอง พระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากสถาบันวิทยสิริเมธี ประจำปี 2564 จำนวน 30 คน โดยแบ่งเป็นระดับปริญญาเอก จำนวน 26 ราย และระดับปริญญาโท จำนวน 4 ราย และพระราชทานทุนการศึกษา “ศรีเมธี” ให้กับนิสิตที่มีผลการเรียนดีเยี่ยมจากสถาบันฯ จำนวน 4 ราย รวมทั้งพระราชทานประกาศนียบัตรแก่ผู้แทนนักเรียนโรงเรียนกำเนิดวิทย์ ที่สำเร็จการศึกษา รุ่นที่ 5 จำนวน 2 ราย โดยมี นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ดร.ไพรินทร์ ชูโชติถาวร นายกสภาสถาบันวิทยสิริเมธี ดร.จำรัส ลิ้มตระกูล อธิการบดีสถาบันวิทยสิริเมธี ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.ทศพร ศิริสัมพันธ์ ประธานกรรมการ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) และ นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. พร้อมกับคณะผู้บริหารและพนักงาน กลุ่ม ปตท. เฝ้าฯ รับเสด็จ ณ ตำบลป่ายุบใน อำเภอวังจันทร์ จังหวัดระยอง
.
ในการนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงทอดพระเนตรผลงานทางวิชาการและงานวิจัยของสถาบันวิทยสิริเมธี ที่สอดคล้องกับความต้องการของธุรกิจในปัจจุบัน แบ่งเป็น 3 ด้าน ได้แก่ งานวิจัยทางด้านระบบปัญญาและหุ่นยนต์ (Al and Robotic) งานวิจัยทางด้านเทคโนโลยีกักเก็บพลังงาน การพัฒนาแบตเตอรี่และวัสดุคุณภาพภาพสูง (Energy Materials & Environment) และงานวิจัยพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีชีวภาพ (Biotechnology) เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ และการเพิ่มมูลค่าขยะอินทรีย์ อนึ่ง สถาบันวิทยสิริเมธี ได้รับการสนับสนุนและความร่วมมือจากทั้งภาครัฐและภาคเอกชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริษัทในกลุ่ม ปตท. เพื่อร่วมกันสร้างนักวิจัย พัฒนางานวิจัยที่มีศักยภาพไปสู่การใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ และสร้างคุณค่าให้แก่สังคม อันเป็นหนึ่งในเป้าหมายที่สำคัญของสถาบันฯ
.
ต่อมาทรงเป็นประธานในการลงนามความร่วมมือ (MOU) ระหว่าง บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) สถาบันวิทยสิริเมธี และสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) เพื่อส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมจากการดำเนินโครงการสร้างเครื่องกำเนิดแสงซินโครตรอนระดับพลังงาน 3 GeV และห้องปฏิบัติการ ในพื้นที่เขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor of Innovation: EECi) พื้นที่ประมาณ 88 ไร่
.
เครื่องกำเนิดแสงซินโครตรอน ถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานทางด้านวิทยาศาสตร์ที่สำคัญและได้รับการยอมรับจากนานาประเทศ ให้เป็นเครื่องมือที่มีพลานุภาพ เป็นต้นกำเนิดของเทคโนโลยีด้านต่าง ๆ ที่สามารถสร้างคุณประโยชน์มากมายมหาศาลต่องานวิจัยทางด้านการแพทย์ การเกษตร อุตสาหกรรม และด้านอื่น ๆ โดยเครื่องกำเนิดแสงที่จะจัดสร้างนี้ มีค่าระดับพลังงาน 3 GeV และใช้เทคโนโลยี Double Triple Bend Achromat (DTBA) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ทำให้แสงซินโครตรอนมีความสว่างจ้ามากกว่าเดิม 1 ล้านเท่า และรองรับระบบลำเลียงแสงได้สูงถึง 22 ระบบ จึงสามารถนำไปประยุกต์ใช้ประโยชน์ด้านงานวิจัยได้หลากหลาย
.
จากนั้น สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปเป็นประธานในพิธีเปิดอาคารปฏิบัติการวิศวกรรม (Fabrication Center) ซึ่งเป็นห้องทดลองสำหรับนักเรียนในการสืบค้นข้อมูลและพัฒนาต้นแบบสิ่งประดิษฐ์ตามแนวคิดของตนเอง พร้อมทรงติดตามความก้าวหน้าและความยั่นยืนของโรงเรียนกำเนิดวิทย์ โดยมี
.
รองศาสตราจารย์ ดร.บุญโชติ เผ่าสวัสดิ์ยรรยง ผู้อำนวยการโรงเรียนกำเนิดวิทย์ กราบบังคมทูลรายงาน ต่อมาเสด็จพระราชดำเนินไปยัง “ศูนย์เรียนรู้เกษตรนวัต สถาบันเทคโนโลยีจิตรลดา” ซึ่งเป็นแหล่งการเรียนรู้สำคัญในการพัฒนาภาพลักษณ์ของเกษตรกรไทยยุคใหม่ ให้เป็นอาชีพที่น่าภาคภูมิใจและยั่งยืน โดย นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. และ นายเทอดเกียรติ พร้อมมูล ประธานกรรมการ บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด ทูลเกล้าฯ ถวายหนังสือและแพลตฟอร์ม “สวนสมรม” ที่นำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ประโยชน์ในการพัฒนาระบบการเกษตร
.
ต่อมาทรงเสด็จพระราชดำเนินเยือนลานใจบ้าน สถาบันวิทยสิริเมธี โดยมีนายมนตรี ลาวัลย์ชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (ปตท.สผ.) พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและพนักงาน เฝ้าฯ รับเสด็จ และนำเสนอนิทรรศการโครงการด้านนวัตกรรมและสิ่งแวดล้อม ผลงานของ ปตท.สผ. ร่วมกับพันธมิตร ที่จะช่วยสนับสนุนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกผ่านแนวคิด EP Net Zero 2050 ของ ปตท.สผ. นอกจากนี้ยังจัดแสดงเกี่ยวกับเทคโนโลยี Smart Forest Solution ซึ่งเป็นผลงานของ บริษัท เอไอ แอนด์ โรโบติกส์ เวนเจอร์ส หรือ เออาร์วี ซึ่งเป็นบริษัทด้านปัญญาประดิษฐ์และหุ่นยนต์ในเครือ ปตท.สผ. โดยเป็นเทคโนโลยีเพื่อการวางแผนบริหารจัดการพื้นที่สีเขียวให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โครงการด้านการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและระบบนิเวศทางทะเลอย่างยั่งยืนของ ปตท.สผ. ภายใต้แนวคิด “ทะเลเพื่อชีวิต” (Ocean for Life) เพื่อเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพให้กับระบบนิเวศใต้ทะเล
.
จากนั้น ทอดพระเนตรการแสดงโดรนแปรอักษรประกอบ แสง สี เสียง ซึ่งกลุ่ม ปตท. โดย ปตท.สผ. และบริษัท เออาร์วี จัดแสดงขึ้นด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ โดยใช้โดรนจำนวนกว่า 700 ลำ ทำการแสดงรวม 9 ภาพ ในรูปแบบ 3 มิติ ผสานม่านน้ำมัลติมีเดีย ในชื่อชุด “ความยั่งยืนจากท้องทะเลสู่ท้องฟ้า เหล่าประชาร่วมเทิดพระเกียรติ” โดยนำเสนอความมุ่งมั่นของ ปตท.สผ. ในการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล เชื่อมโยงสู่การใช้เทคโนโลยีโดรนและปัญญาประดิษฐ์เพื่อดูแลความสมบูรณ์ของทรัพยากรชายฝั่ง รวมถึงเพื่อพัฒนาภาคการเกษตรของไทย และพระราชกรณียกิจในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
เทรนด์การบริโภคของคนไทยเริ่มเปลี่ยน
เทรนด์การบริโภคของคนไทยเริ่มเปลี่ยน แม้ส่วนใหญ่ยังคงนิยมรับประทานอาหารในบ้านทุกวัน แต่บางกลุ่มเริ่มกลับไปเข้าร้านอาหารมากขึ้น โดยเฉพาะร้านอาหารทั่วไป ริมบาทวิถี ส่วนร้านหรูแนวโน้มลดลง
.
ความถี่ในการรับประทานอาหารนอกบ้าน เกือบทุกอาชีพและช่วงรายได้ไปรับประทาน 1-2 ครั้ง/เดือน โดยเฉพาะพนักงานของรัฐ ผู้ประกอบการ อาชีพอิสระ และผู้มีรายได้สูงกว่า 30,000 บาท/เดือน
.
แต่ เป็นที่น่าสังเกตว่า นักศึกษา พนักงานเอกชน พนักงานของรัฐ และผู้ที่มีรายได้ระหว่าง 20,001-50,000 บาท/เดือน จะนิยมรับประทานอาหารนอกบ้าน (มากกว่า 1-2 ครั้ง/เดือน) ในสัดส่วน ที่สูงกว่ากลุ่มอาชีพและช่วงรายได้อื่น
.
ขณะที่เกษตรกร ผู้ไม่ได้ทำงาน/บำนาญ และผู้ที่มีรายได้ไม่เกิน 10,000 บาท/เดือน จะไม่นิยมรับประทานอาหารนอกบ้าน
.
ส่องค่าใช้จ่ายมากสุดรายได้น้อยกว่า 5,000 บาท ซึ่งไม่เกิน 100/คน/มื้อ
.
ถ้าไปดูค่าใช้จ่ายในการรับประทานอาหารนอกบ้าน เกือบทุกอาชีพและช่วงรายได้มีค่าใช้จ่ายไม่เกิน 300 บาท/คน/มื้อ ยกเว้นเกษตรกร ผู้ไม่ได้ทำงาน/บำนาญ ที่มีสัดส่วนไม่มีค่าใช้จ่ายสูงกว่าอาชีพอื่น และทั้ง 2 อาชีพส่วนใหญ่ก็ไม่นิยมรับประทานอาหารนอกบ้านเช่นกัน
.
แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า ผู้ที่มีรายได้ไม่เกิน 5,000 บาท/เดือน มีค่าใช้จ่ายไม่เกิน 100 บาท/คน/มื้อ ในสัดส่วนที่สูงกว่าช่วงรายได้อื่น และผู้ที่มีรายได้มากกว่า 40,000 บาท/เดือน จะมีค่าใช้จ่ายมากกว่า 300 บาท/คน/มื้อ
.
ร้านทั่วไป-สตรีทฟู้ดยังฮอต
.
ส่วนใหญ่กลุ่มที่รับประทานอาหารนอกบ้าน นิยมไปร้านอาหารทั่วไปและริมบาทวิถี แต่ร้านระดับหรูมีแนวโน้มลดลงในทุกสาขาอาชีพและช่วงรายได้ เช่นเดียวกับร้านระดับกลางมีแนวโน้มลดลงในเกือบทุกสาขาอาชีพเช่นกัน ยกเว้นพนักงานของรัฐ และลดลงเฉพาะในกลุ่มผู้มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท/เดือน
.
จึงเป็นที่น่าสังเกตว่า กลุ่มพนักงานของรัฐ ลดการรับประทานอาหารเฉพาะร้านระดับหรู แต่ยังคงรับประทานอาหารในร้านประเภทอื่นตามเดิม
.
ขณะที่เกษตรกร ลดการรับประทานอาหารนอกบ้านเกือบทุกประเภทยกเว้นร้านริมบาทวิถี และกลุ่มผู้ไม่ได้ทำงาน/บำนาญ ลดการรับประทานอาหารนอกบ้านในร้านอาหารทุกประเภท
งบน้อยก็เที่ยวได้ เปิด HOW TO คุมงบเที่ยว ตปท.ยังไง ใน10,000 บาท
พกเงินมา 10,000! ก็เที่ยวต่างประเทศฉบับคนงบน้อยได้แบบจัดเต็ม สลัดความบานปลายของวงเงินการตะลอนทัวร์ให้หมดไป แล้วหันมาเติมพลังงานความสุขให้หัวใจได้กลับมามีไฟใช้ชีวิตด้วยการออกไปผจญภัย สัมผัสธรรมชาติสวยๆ ผู้คนมากหน้าหลายตาและวัฒนธรรมแปลกใหม่ได้ง่ายๆ เพียงท่องไว้ว่าทุกอย่างบนโลกนี้มีช่วงเวลาโปรโมชั่นให้เราตักตวงได้เสมอ ทั้งค่าตั๋วเดินทางและที่พัก แต่ที่ซื้อได้เลยแบบไม่ต้องรอคือแผนประกันการเดินทาง ที่ดูแลครอบคลุมการเดินทางทั้งในเอเชียและทั่วโลก ลดความเสี่ยงกับค่าใช้จ่ายที่อาจเพิ่มระหว่างทริปโดยไม่จำเป็น โดยสามารถเลือกแผน พร้อมเลือกความคุ้มเสริมเพิ่มได้ตรงใจ คุ้มค่าเบี้ยกรมธรรม์รวมแล้วครบ ทริปจบในหมื่นเดียว ออกไปท่องโลกกว้าง เที่ยวต่างประเทศแบบคนงบน้อย นอกจากพาสปอร์ต สัมภาระและหัวใจ ต้องเตรียมคุมงบอะไร กันค่าใช้จ่ายบานปลายแบบไหนได้บ้าง มาเช็กลิสต์ตามนี้ได้เลย
จัดกระเป๋าพร้อมเที่ยว ต้องเตรียมคุมงบอะไรบ้าง
1.คุมงบตั๋วเดินทาง
เที่ยวต่างประเทศ งบน้อย ท่องไว้เลยว่ายิ่งไกลจากวันเดินทางได้มากแค่ไหน ราคาตั๋วยิ่งถูกมากเท่านั้น การจองตั๋วเดินทางแบบ Low Cost ไว้ล่วงหน้าก็เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับเดินทางไปยังประเทศใกล้ๆ ลองเล็งดูให้ดีเพราะแทบทุกไตรมาสของปี สายการบินต่างๆ จะพากันออกมาจัดโปรโมชั่นสุดคุ้มให้เราตาลุกวาวอยู่เสมอ แต่ต้องแลกกับวันเดินทางที่แน่นอนไม่สามารถเลื่อนเข้าออกได้ หรือถ้าเลื่อนได้ก็อาจต้องแลกมากับค่าธรรมเนียมที่โหดเอาเรื่อง ต่างกับประกันการเดินทางที่เลื่อนแผนการคุ้มครองกรมธรรม์ให้คุณได้สูงสุดถึง 2 ปี ถึงติดงานทริปล่มไม่ได้บินก็แจ้งเลื่อนวันได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ยืดหยุ่นขั้นสุดเลย
2.จองที่พักล่วงหน้า
อยากเที่ยวต่างประเทศแต่มีงบอยู่ 10,000 ก็เที่ยวได้สบาย โฮสเทลคือที่พักราคาประหยัดขั้นสุดที่นักเดินทางเลือกใช้ หรือจะขยับขึ้นมาอีกนิดเป็นโรงแรมขนาดเล็กก็ยังไหว เพียงแค่คุณต้องทำการจองไว้ล่วงหน้า และอย่าลืมอ่านรีวิวที่พักให้รอบด้าน เพราะความถูกที่ได้มาบางครั้งอาจแลกกับความสะดวกสบายหรือความเป็นส่วนตัวที่ลดลง ที่พักบางแห่งให้จ่ายเงินครบจำนวนตั้งแต่วันที่ทำการจองเพื่อแลกกับส่วนลด ต่างกับบางที่สามารถทำการจองและชำระเงินเต็มจำนวนได้ในวันที่เข้าพัก ยิ่งเป็นช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์การเลื่อนวันจองโรงแรมอาจเป็นเรื่องที่แทบเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นอ่านเงื่อนไขโปรโมชั่นให้ละเอียดก่อนตกลงปลงใจ
3.กินเที่ยวตามแพลน
เที่ยวต่างประเทศฉบับงบน้อยต้องตีแผนการเดินทางให้แตก ไปประเทศไหนต้องใช้บัตรผ่านอะไรบ้าง คุณสามารถกดซื้อตั๋วขึ้นกระเช้าไฟฟ้า ตั๋วโดยสารรถไฟภายในประเทศ เที่ยวดิสนีย์แลนด์ และเรือข้ามฟาก ในราคาที่เป็นมิตรมากกว่าการตรงดิ่งเข้าไปซื้อหน้าตู้ เพียงกดจองผ่านระบบออนไลน์ นอกจากจะได้ราคาดีเหมาะกับสายเซฟงบแล้ว ยังช่วยลดขั้นตอนและประหยัดเวลาต่อคิวซื้อตั๋ว เดินผ่านประตูไปเที่ยวได้แบบผ่านฉลุย ส่วนเรื่องอาหารการกินถ้าคิดจะตามรอยร้านดังค่าอาหารอาจสูงขึ้นจากปกติตามดีกรีความฮิต แต่โดยทั่วไปหลายประเทศมีสตรีทฟู้ดและอาหารท้องถิ่นที่กินง่าย งบไม่บานปลายให้เลือกได้หลากหลายตามงบ
4.แลกเงินให้พร้อมลุย
ไปเที่ยวที่ไหนต้องใช้ค่าเงินในประเทศนั้นๆ ทริคในการแลกเปลี่ยนสกุลเงินไทยเป็นค่าเงินต่างประเทศให้เกิดความคุ้มค่าที่สุด คือการสังเกตอัตราการแลกเปลี่ยนที่มีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นลดลงไปในแต่ละวัน หรือลองทำรายการเปรียบเทียบค่าเงินที่แลกได้จากร้านต่างๆ ที่ไหนให้มากกว่าก็จิ้มรัวๆ เลือกที่นั่นได้เลย
รู้ทริคคุมงบก่อนแพ็กกระเป๋า กำเงินหมื่นเดียว! ไปเที่ยวต่างประเทศแบบคนงบน้อยไม่ใช่เรื่องยาก แค่ต้องวางแผนการเดินทางไว้ให้พร้อม กับ 5 ประเทศแนะนำ ด้วยเวลา 4 วัน 3 คืน ที่จะทำให้คุณออกไปเผชิญโลกกว้างได้อย่างเซฟเงิน
แนะนำ 2 ประเทศ เที่ยวต่างประเทศฉบับคนงบน้อย (ไม่เกิน 10,000)
1.เวียดนาม
ประเทศแห่งวัฒนธรรมใกล้ไทย เหมาะกับทริปเที่ยวต่างประเทศฉบับคนงบน้อยสุดๆ เดินทางได้หลายรูปแบบ เลือกวิธีได้ตามถนัด ทั้งแบบรถทัวร์-รถไฟก็เซฟงบได้ไม่เบา แต่ถ้ากดซื้อตั๋วเครื่องบินล่วงหน้าไว้ได้ก็ประหยัดเวลาเดินทางไปอีกเยอะ ตีตั๋วเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวได้ไม่ต้องจองล่วงหน้า แต่ละจุดอยู่ในราคาหลักร้อย ด้วยขนาดประเทศที่กว้างมากขอให้เที่ยวเลาะตามเส้นทาง อย่าง เวียดนามกลาง เว้ ฮอยอัน และจบที่ฮานอย หรือแบ่งขึ้นสายเหนือ แยกกับสายใต้อีกทริป เพื่อไม่ให้งบประมาณบานปลายละลายไปกับการเดินทางข้ามพื้นที่
2.มาเลเซีย
เข้าประเทศมาเลเซียแบบประหยัดสุดคือขึ้นเครื่องบินแลนด์ดิ้งลงสงขลา จากนั้นจึงต่อรถทัวร์เข้าประเทศ หรือถ้าเจอตั๋วราคาดีจะเลือกไฟลท์บินตรงแบบถึงปุ๊บเที่ยวปั๊บก็ทันใจ แนะนำให้เช่ารถส่วนตัวขนาดมินิเพื่อใช้เดินทางในประเทศ จะเป็นสายชอป… ชิม… ชิลล์ เที่ยวเก็นติ้ง ไฮแลนด์ หรือชอบธรรมชาติไปพิชิตยอดเขาโคตาคินาบาลูก็เดินทางไปได้ จบในงบเพราะค่าน้ำมันที่นี่ถูกมาก จึงเหมาะสำหรับใครที่ต้องการเดินทางเที่ยวต่างประเทศแต่มีงบน้อย
ที่มา: cigna
Singha Food จัดงานเทศกาลแห่งความสุขและความอร่อยแบบเต็มพิกัด “Singha Food Festival”
รวบรวมบรรดาร้านอาหารดังระดับพรีเมี่ยมกว่า 30 ร้านมาไว้ที่ใจกลางเมือง ณ ลานมรกต เซ็นทรัลชิดลม
อาทิ Croissant Taiyaki, เหลือใจ, Chef Pom, Smoke.BKK, เจ๊แดงสามย่าน, Chim Ramen and diner
, โคตรยำ, Teyaki, Buzz Dog Hotdog & Fries, Tokki Izakaya, อองตอง ข้าวซอย, Mickey’s Diner BKK และ Mr.Lim Gimbap
.
ให้ประชาชนได้เลือกซื้อเลือกชิมกัน ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Sustainability” ที่ปราศจาก Single-Use Plastic
เพลิดเพลินกับอาหารที่หลากหลายไปด้วยกันโดยไม่ทำร้ายโลก
.
นอกจากร้านอาหารดังที่ยกกันมาแล้ว Singha Food Festival ยังเอาใจคนรุ่นใหม่
เสิร์ฟความสุขให้ผู้ร่วมงานไปอีกขั้น ด้วยบรรดาศิลปินคุณภาพที่ร่วมกันมามอบสีสันภายในงาน
.
โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็น Scrubb, Burin Boonvisut, The Parkinson, Joey Boy,
Tom Isara และ T-Bone พร้อมกับเหล่า ดีเจ.อีกมากมาย
.
สำหรับผู้คนที่สนใจอยากร่วมชิมอาหารรสเลิศและเครื่องดื่มอีกมากมายในบรรยากาศดี ๆ ไปกับงาน
Singha Food Festival สามารถมาเที่ยวงานได้ตั้งแต่วันที่ 11-13 พฤศจิกายนนี้ ณ ลานมรกต เซ็นทรัลชิดลม
.
ที่มา : ประชาชาติ
Brioni แบรนด์สุดเนี๊ยบ จากกรุงโรม ส่งตรงความหรูหรา สู่สุภาพบุรุษชาวไทย
หากพูดถึงชุดสูทสัก 1 ชุดเวลาใช้ออกงานนั้น จะต้องเป็นสูทที่เมื่อเวลาหนุ่ม ๆ ใส่แล้วจะช่วยในการเสริมบุคลิกและรูปร่างของหนุ่มให้ดูดี ดูเท่ ดูสมาร์ท และเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับคนใส่ ซึ่งหนุ่ม ๆ หลายคนมักจะประสบปัญหาว่าสูทที่ใส่อยู่นั้นไม่เหมาะกับตัวของคุณเอง บางครั้งอาจจะดูใหญ่จนเกินไป จนทำให้ความเท่ที่คุณมีอยู่นั้นหายไปเช่นกัน ดังนั้นเราควรเลือกสูทที่พอดีตัว และเหมาะสมกับคุณอยู่เสมอ ดังนั้นในการตัดสูทแต่ละครั้ง หรือเลือกซื้อเป็นสูทสำเร็จนั้น หนุ่ม ๆ ควรเลือกร้านที่มีความน่าเชื่อถือ มีประสบการณ์ พนักงานสามารถคอยแนะนำวิธีเลือกสูทให้เหมาะกับคุณได้อีกด้วย
.
วันนี้เรา Promotions.co.th ได้มีโอกาสเข้าไปที่ร้าน Brioni ที่เรียกได้ว่า ถ้าใครจะตัดสูทสักชุดนั้น จะต้องคิดถึงสูทแบรนด์จากประเทศอิตาลีแบรนด์นี้อย่างแน่นอน…
.
Brioni เป็นแบรนด์ออกแบบเสื้อผ้าในประเทศอิตาลี โดยเริ่มก่อตั้งที่กรุงโรม ในปี 1945 ซึ่ง Brioni นั้น เป็นที่รู้จักในเรื่องของการตัดเย็บเสื้อผ้าคุณผู้ชาย เสื้อผ้าสำเร็จรูป และหนังชั้นดี ซึ่งแนวคิดและความสร้างสรรค์ของแบรนด์นี้นั้น ทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จัก และโดนเด่น แตกต่างจากแบรนด์อื่น ๆ
.
ถ้าหากคุณกำลังคิดว่าเราบินไปถึงประเทศอิตาลีนั้น ป่าวค่ะ เพราะว่าแบรนด์ Brioni นั้นก็มีสาขาอยู่ที่ไทย ขอบอกว่าเป็นสาขาแรกและสาขาเดียวเท่านั้นนะคะ ซึ่งถ้าหากใครไปเดินช้อปปิ้งที่ห้างเกสร ตรงชิดลมอยู่บ่อย ๆ นั้น จะต้องสะดุดตากับร้านสูทร้านนี้อย่างแน่นอน โดยสาขาที่ไทยนั้น เปิดมาแล้วถึง 3 ปีด้วยกันแล้ว โดยในปีนี้เข้ากำลังสู่ปีที่ 4 แล้วในการเปิดให้บริการ เรามาดูกันที่บรรยากาศของร้านกันสักเล็กน้อย เมื่อคุณเดินเข้ามานั้น ขอ
บอกว่าการจัดวางของร้านนั้น ดูเรียบง่ายแต่กลับมีสไตล์น่าค้นหา ซึ่งภายในร้านแบ่งออกเป็น 3 ส่วนด้วยกัน ได้แก่ ส่วนที่เป็นชุดลำลอง และ Accessories ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น กระเป๋า รองเท้า เข็มกลัด แว่นตา และอื่น ๆ อีกมากมาย
.
ปิดท้ายด้วยห้องรับรองภายในร้าน ที่รอบ ๆ ห้องนั้นคุณสามารถเลือกดูชุดสูท และขอคำแนะนำเกี่ยวกับการตัดสูทได้เช่นกัน โดยทั้ง 3 ส่วนนั้นสามารถเดินเชื่อมต่อถึงกันได้หมด
.
Brioni นั้น นอกจากคุณจะเลือกซื้อเป็นสูทสำเร็จ คุณสามารถที่จะสั่งตัดสูทจากร้านได้อีกเช่นกัน ซึ่งขอบอกว่าจุดเด่นของ Brioni นั้นคือ จะมีช่างบินตรงจากอิตาลีลัดฟ้ามาประเทศไทย เพื่อมาวัดตัวคุณโดยเฉพาะ เรียกว่าเป็น 1 ในการบริการที่คุณจะต้องประทับใจอย่างแน่นอน
.
โดยสูทที่สั่งตัดของทางร้านนั้น จะมีด้วยกันถึง 4 แบบหลัก ๆ ได้แก่ แบบคลาสสิค, แบบสลิม (Madison), แบบสลิมกลาง (Brunico) และแบบสลิมมาก ส่วนระยะเวลาในการสั่งตัดอยู่ที่ประมาณ 2-4 เดือน
.
ซึ่งสูท 1 ตัวของ Brioni นั้น จะมีฝีเข็มที่ทำด้วยมือ อยู่ที่ประมาณ 1,750 ฝีเข็ม เรียกว่าเป็นการผสมสานทั้งงานฝีมือและเครื่องจักรเลยก็ว่าได้ เราขอบอกว่าเป็นงานที่ประณีตมาก ๆ ซึ่งคุณสามารถสังเกตได้จากตรงรังดุมของแขนเสื้อนั้น จะเป็นฝีเข็มที่ทำด้วยมือทั้งหมด ส่วนเนื้อผ้าตัวข้างในที่ยอดฮิต เพราะมีคนสั่งตัดอยู่บ่อย ๆ ก็คือ ผ้าแคนวาส ซึ่งผ้าชนิดนี้จะไม่ค่อยยับ และทิ้งตัวแบบมีน้ำหนัก
.
ในส่วนของราคาในการตัดสูทนั้น ขึ้นอยู่กับเนื้อผ้าและรูปทรง ซึ่งลูกค้านั้นสามารถที่จะกำหนดได้เอง โดยมีราคาสูงสุดที่เคยมีลูกค้าสั่งตัดนั้นอยู่ที่ 1,000,000 บาทเลยทีเดียว ส่วนสูทสำเร็จของทางร้านนั้น ราคาอยู่ที่ประมาณ 190,000 – 230,000 บาท เรียกได้ว่าหนุ่ม ๆ คนไหนที่กำลังมองหาสูทอยู่นั้น ลองเลือกสูทแบรนด์นี้ดูนะคะ
.
แหล่งที่มา : https://promotions.co.th/%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%88%E0%B8%95%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%94/fashion-%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%88%E0%B8%95%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%94/%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%A7-brioni-%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%97%E0%B8%99%E0%B8%B3%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%B2.html
ไม่น่าเชื่อ มุมนี้ ใจกลางกรุง!!
มื้อเย็นสุดฟิน!! ที่แทบไม่อยากจะเชื่อว่า ภาพนี้ คือ ใจกลางกรุงเทพมหานคร ไม่ต้องบินไปไกลถึงนิวยอร์ก ก็ได้มุมมอง แสนอลังแบบนี้ พร้อมกับมื้ออาหารสุดพิเศษ
ที่นี้เลย โรงแรม Banyan Tree Bangkok สาทรใต้ เขตสาทร กรุงเทพฯ
พิกัด : https://goo.gl/maps/GUV1ZL9hbYLcyZin9
ร้านอยู่บริเวณชั้น 61 เปิดบริการ : 17.00 - 21.00 น. (ศุกร์-อาทิตย์)
โทร.สอบถาม หรือ จองโต๊ะ : 0-2679-1200
เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/vertigotoo
จองตั๋วรถไฟ ขบวนพิเศษรถจักรไอน้ำนำเที่ยวเนื่องในวันพ่อแห่งชาติ
เริ่มวันนี้ (11 พ.ย.2565) จองตั๋วรถไฟ ขบวนพิเศษรถจักรไอน้ำนำเที่ยวเนื่องในวันพ่อแห่งชาติ เฉลิมพระเกียรติ 5 ธันวาคม 2565 วันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของในหลวงรัชกาลที่ 9 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
.
นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ ผู้อำนวยการศูนย์ประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้จัดกิจกรรมเดินขบวนพิเศษรถจักรไอน้ำนำเที่ยว เฉลิมพระเกียรติ 5 ธันวาคม เพื่อแสดงความจงรักภักดีและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาสุดมิได้ต่อกิจการรถไฟไทย รวมถึงโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริอื่นๆ อีกนับพันโครงการ ที่สร้างความผาสุกแก่พสกนิกรภายในประเทศ
.
การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้นำรถไฟหัวรถจักรไอน้ำ รุ่นแปซิฟิก หมายเลข 824 และ 850 รุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ผลิตโดยบริษัท นิปปอน ชาร์เรียว จำกัด ซึ่งปัจจุบันได้เก็บรักษาและซ่อมบำรุงอยู่ที่โรงรถจักรธนบุรี มาจัดเดินขบวนพิเศษรถจักรไอน้ำนำเที่ยว เส้นทางสายประวัติศาสตร์ระหว่าง สถานีกรุงเทพถึงสถานีฉะเชิงเทรา เพื่อให้ประชาชนได้ร่วมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์
.
โดยเริ่มจำหน่ายตั๋วโดยสารตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน 2565 เป็นต้นไป อัตราค่าโดยสารรถธรรมดาชั้น 3 ไป - กลับ ผู้ใหญ่/เด็ก ราคา 299 บาท และตู้โดยสารปรับอากาศ (รถโอทอป) ราคา 799 บาท โดยผู้โดยสารจะได้รับบริการอาหารว่างและน้ำดื่มทั้งเที่ยวไป-กลับทุกที่นั่ง
.
ผู้สนใจสามารถติดต่อซื้อตั๋วและสำรองที่นั่งล่วงหน้าด้วยระบบ D-Ticket หรือที่สถานีรถไฟทุกแห่งทั่วประเทศ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ศูนย์บริการข้อมูลลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือเว็บไซต์ www.railway.co.th (คลิก) หรือเฟซบุ๊กแฟนเพจ ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย
.
เปิดเส้นทางขบวนรถจักรไอน้ำพิเศษนำเที่ยวกรุงเทพ-ฉะเชิงเทรา-กรุงเทพ ขบวนที่ 903/904
.
• ออกจากสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) เวลา 08.10 น. ถึงสถานีฉะเชิงเทราเวลา 09.50 น.
.
• นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางท่องเที่ยวภายในจังหวัดฉะเชิงเทราได้ตามอัธยาศัยประมาณ 6 ชั่วโมง อาทิ กราบ
.
สักการะหลวงพ่อพระพุทธโสธร พระพุทธรูปสำคัญของจังหวัดฉะเชิงเทรา ณ วัดโสธรวรารามวรวิหาร ไหว้ขอพรพระพิฆเนศวัดสมานรัตนาราม เดินชม ช้อปสินค้าที่ตลาดบ้านใหม่
.
• ขบวนรถเที่ยวกลับออกจากสถานีฉะเชิงเทรา เวลา 16.30 น. ถึงกรุงเทพ เวลา 18.10 น.
.
สถานีที่หยุดรับ-ส่งผู้โดยสาร
.
• สถานีมักกะสัน
.
• คลองตัน
.
• หัวหมาก
.
รฟท. ขอเชิญชวนประชาชนทั่วไปที่อาศัยอยู่ใกล้เส้นทางรถไฟสายกรุงเทพ – ฉะเชิงเทรา สามารถร่วมบันทึกภาพหัวรถจักรไอน้ำในเส้นทางที่ขบวนรถวิ่งผ่านได้ตลอดเส้นทาง
.
ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/travel/1037244